ตรัง ลูกสาวติดใจ แม่ป่วยโรคไตเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตรัง แต่กลับติดเชื้อโควิด-19 ลงปอดจนเสียชีวิต ลั่น โรงพยาบาลตรังต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะแม่ไม่ได้ติดโควิด 19 ก่อนเข้ารักษา ลูกยืนยันว่าติดจากรพ.แน่นอน ใบรับรองแพทย์และใบมรณบัตร ที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตติดเชื้อโควิด 19 ลงปอดเสียชีวิต แม่ตาย ลูก ๆ ไม่มีโอกาสได้จัดงานศพให้ ส่วนตัวลูกสาวเฝ้าไข้แม่ ก็ติดเชื้อโควิด19 เกือบเอาชีวิตไม่รอด
วันที่ 1 มีนาคม 2565 ที่บ้านเลขที่ 107/2 ม.5 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง นางจิตราภรณ์ เคลือกล่อม อายุ 56 ปี เข้าร้องสื่อกรณี นางประจบ เป้าทอง อายุ 87 ปี ซึ่งเป็นแม่ มีอาการอาเจียน ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง มีโรคประจำตัวเป็น โรคไตและโรคเกาท์ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2565 จนถึง วันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่กลับมาเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ลงปอด โดยมีนางจิตราภรณ์ ลูกสาวทำหน้าที่นอนเฝ้าดูอาการแม่ของตัวเอง อยู่ที่รพ.คอยเฝ้ามาตลอดเวลา จนกระทั่งวันที่ 10 ก.พ. นางจิตราภรณ์ได้ขอกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงได้ให้พี่สาวมาผลัดเปลี่ยนเวรเฝ้าแม่ จนวันที่ 13 ก.พ. รู้สึกมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย รู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงไปที่รพ.นาโยง อ.นาโยง เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ผลออกมาว่าติดโควิด 19 ทำให้ตกใจมาก จึงรีบโทรหาพี่สาวที่อยู่เฝ้าแม่และได้บอกให้ทางแพทย์และพยาบาลที่รพ.ตรังช่วยตรวจสวอปแม่ที่นอนป่วยด้วย จนพบว่าแม่ได้ติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน แต่พี่สาวไม่ติด ทางรพ.จึงให้พี่สาวกลับบ้าน หลังจากนั้นก็ได้พาแม่ขึ้นไปรักษาอาการโควิด ที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นที่รักษาผู้ป่วยโควิด 19 และตนเองก็อยู่รักษาตัวที่บ้าน เป็นระยะเวลา 15 วัน ก็ไม่ได้เห็นหน้าแม่อีกเลย จนกระทั่งวันที่ 26 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ทางรพ.ตรัง ได้โทรมาแจ้งว่าแม่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด19 ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากจึงอยากให้ทางโรงพยาบาลตรังออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะติดใจแม่ไม่ได้ติดโควิด 19 ไปจากบ้าน ตนยืนยันว่าติดจากรพ.แน่นอน หลังจากนั้นนางจิตราภรณ์ได้แสดงใบรับรองแพทย์และใบมรณบัตร ที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตติดเชื้อโควิด 19 ลงปอด ให้ผู้สื่อข่าวดู
ด้านนางจิตราภรณ์ เคลือกล่อม เล่าว่า แม่มีอาการอาเจียนคืนวันที่ 20 มกราคม ตนเองก็ได้โทรแจ้ง 1669 เพื่อให้มารับแม่ไปโรงพยาบาลนาโยง ซึ่งทางแพทย์สอบถามว่าแม่มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง แม่ตนมีโรคไตและโรคเกาท์ จากนั้นก็พาตนเองซึ่งเป็นญาติไปตรวจสวอปก่อนเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ผลปกติ ไม่พบโควิด 19 ก็ให้ตนไปเฝ้าแม่ได้ จากนั้นทางโรงพยาบาลนาโยงก็ได้ทำเรื่องส่งตัวแม่ไปโรงพยาบาลตรังในวันนั้นเลย ซึ่งตนเองดูแลแม่ที่โรงพยาบาลตรังมาตลอด แม่ก็มีอาการดีขึ้นมาเรื่อย ๆระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่รพ. จากที่กินไม่ได้ก็เริ่มกินอาหารเหลวได้ แต่ก็ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล มาทั้งหมด 23 วัน เนื่องด้วยป่วยเป็นโรคไต และหลังจากที่ได้ดูแลแม่ตนเองได้ขอกลับบ้านระหว่างวันที่10-13 กุมภาพันธ์ ตนเองกลับมาบ้านเพื่อขอเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนั้นรู้สึกมีอาการไข้เล็กน้อย จึงขอไปทำการสวอปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลนาโยง กลับมาถึงบ้านไม่นานทางเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าติดเชื้อโควิด 19 ก็รีบโทรบอกพี่สาวที่มาผลัดเปลี่ยนเวรกับตนเอง ให้ทำการสวอปแม่ที่นอนป่วยติดเตียง ก็พบว่าแม่ติดโควิด19 เช่นกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็พาตัวแม่ขึ้นไปชั้น 7 ที่ทำการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ส่วนพี่สาวก็สวอปตรวจหาเชื้อแต่ไม่พบติดเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่รพ.ก็ให้กลับบ้านเลย ตอนนั้นไม่รู้ว่าติดโควิดมาจากที่ไหนแต่ตนมั่นใจว่าติดมาจากที่รพ.แน่นอน เพราะตนเองเฝ้าแม่ที่รพ.ตลอด จะระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นห่วงแม่ แต่กลับมาติดโควิด 19 หลังจากนั้นตนเองก็ไม่ได้เจอหน้าแม่อีกเลย พี่สาวก็ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
และตนเองก็รักษาตัวทั้งหมด 15 วัน เพราะป่วยโควิด 19 จนมาถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 10.41 น. แม่เสียชีวิตแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำศพไปทำการเผาที่เมรุวัดกระพังสุรินทร์ทันที ที่มาร้องสื่อวันนี้เพราะต้องการให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ เพราะตนเองติดใจแม่ไม่ได้ติดโควิด 19 ไปจากบ้าน ซึ่งตนเองเมื่อรักษาอาการโควิดหาย จากนั้นก็ไปทำเรื่องเอกสารออกใบมรณบัตรให้แม่ ทางรพ.ก็ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จึงอยากให้ทางรพ.รับผิดชอบในเรื่องตรงนี้ด้วย คนไข้ไปหวังให้รักษาให้หาย แต่กลับต้องมาติดโควิด 19 ลงปอดเสียชีวิต ซึ่งตนเองออกเงินเองหมด หมดค่าใช้จ่ายไป 12,000 บาท ยังไม่รวมที่จะทำพิธีเก็บอัฐิเข้าโกศอีก และตอนนั้นตนเองก็ติดโควิดเกือบจะไม่รอดเช่นกัน รายได้ก็ไม่มี แม้ตอนที่จะเฝ้าแม่ก็ต้องจ่ายค่าตรวจสวอบโควิด อีก 500 บาท ญาติที่เฝ้าจะต้องจ่ายทุกครั้ง ครั้งละ 500 บาท จึงอยากให้รัดกุมเรื่องมาตรการ ถ้าแม่เสียชีวิตจากโรคไตโรคประจำตัวที่เป็นอยู่จะไม่เดือดร้อนขนาดนี้เลย แต่นี่ติดโควิดเชื้อลงปอด แม่ตาย ลูกๆก็ไม่ได้เฝ้าไม่ได้เห็นหน้าอีกเลย แม้แต่จัดงานศพก็ไม่ได้
ทั้งนี้ตนเองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ส่วนแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาระยะเวลา 1 ปี นอนติดเตียงก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดวัคซีนให้ แต่ขณะอยู่ที่บ้านใครมาเยี่ยมก็ไม่ให้เข้าใกล้แม่เพราะหวั่นติดโควิด 19
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: