หนุ่มสกลวัย 42 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เหยียบเม็ดทรายบนถนนลื่นล้มถูกรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ทับหัวบี้คาหมวกกันน็อก เหตุเกิดบริเวณซอยวัดศรีวารีน้อยใกล้แยกไฟแดงโรงเรียนบางน้ำจืด ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 1 มีนาคม 2565 พ.ต.ท. สพัส ปราการพิทักษ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มถูกบรรทุกพ่วงทับเสียชีวิตที่บริเวณซอยวัดศรีวารีน้อยใกล้แยกไฟแดงโรงเรียนบางน้ำจืด ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ทุบกระจกหนีตาย ดินสไลด์บ้านพังตกแม่น้ำบางปะกง เดือดร้อน 5 ครัวเรือน
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ จัดการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดอกบัวเกมส์” เชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสามัคคี
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนาย ชัยวัฒน์ ศรีจูม อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร นอนจมกองเลือดอยู่กลางถนนในสภาพศีรษะถูกล้อรถบรรทุกพ่วงทับจนหมวกกันน็อกแตกกะโหลกระเบิด มันสมองปนเลือดแดงฉานเต็มหมวกนิรภัย ใกล้กันได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สกุ๊ปปี้ สีดำ ทะเบียน 2 ขน 7726 กทม.ล้มคว่ำอยู่ข้าง ๆ ห่างไปเล็กน้อยได้พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ วอลโว่ สีขาว หัวลากทะเบียน หัวลาก 64-6740 กทม. ส่วนหางพ่วง 73-6010 กทม.จอดอยู่ริมถนน ที่ล้อหลังข้างซ้ายมีร่องรอยการเหยียบหมวกนิรภัยอยู่
นายเอกราช แปลงไร่ คนขับรถบรรทุกพวงคู่กรณี ได้เล่าว่า ขณะตนขับรถผ่านแยกไฟแดงมาได้แค่ 100 เมตร ก็มีความรู้สึกว่าเหมือนเหยียบอะไรบางอย่างที่ล้อหลังจึงจอดมองกระจกข้างฝั่งซ้ายเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ จึงรีบจอดรถลงมาดูพบว่าคนขับเสียชีวิตแล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ยืนยันตนไม่ได้เกี่ยวหรือชนคู่กรณีแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจังหวะที่ผู้ตายขี่จักรยานยนต์มาช่องทางซ้ายเพื่อจะเร่งเครื่องแซงรถของตนแต่เกิดเสียหลักเหยียบเม็ดทรายและเม็ดหินที่ตกอยู่บนพื้นถนนจำนวนมากและเกิดลื่นเสียหลักล้มศีรษะผู้ตายพาดเข้ามาในช่วงล้อหลังหางพ่วงรถตนพอดีจึงถูกล้อหลังเหยียบจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนขับรถพ่วงไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก และจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: