กระบี่-โซเชียลแชร์คลิปพ่อกับเพื่อนเจ้าสาว รัวปืนขึ้นฟ้ารับขบวนขันหมาก ตร.ตามตัวดำเนินคดี
วันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมโซเชียลของชาว จ.กระบี่ มีการแชร์คลิปที่ถ่ายโดยมือถือเป็นคลิปภาพเหตุการณ์ชาย 4 คน ใช้ทั้งอาวุธปืนสั้น และอาวุธปืนยาว หลายกระบอกยิงขึ้นฟ้ากันหลายนัด ภายในบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งภายหลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทาง พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จ.กระบี่ ทราบเรื่องจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ ตรวจสอบที่มา ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ ชุดสืบสวนภูธร จ.กระบี่ สืบสวนจนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่หมู่ 3 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จากนั้นจึงประสานไปยัง พ.ต.อ.จงรักษ์ พิมพ์ทอง ผกก.สภ.ปลายพระยา ส่งทีมสืบสวน สภ.ปลายพระยา เข้าไปตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ รวมทั้งติดตามตัวชายในคลิปทั้ง 4 คน มาดำเนินคดี
กระทั่งเวลา 11.00 น. ของวันเดียวกัน 1 ในผู้ชายที่ปรากฎในคลิป เมื่อทราบว่ามีการแชร์คลิปออกไปทางโซเชียล จึงเดินทางเข้ามาพบตำรวจที่ สภ.ปลายพระยา เป็นเจ้าของบ้าน มีอาชีพทำสวน และเป็นผู้ชายสวมชุดสูทสีครีม ยิงปืนยาวขึ้นฟ้า ให้การกับตำรวจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้า เนื่องจากที่บ้านมีงานแต่งงานของลูกสาว ขณะที่ขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวมาถึง ก็นำปืนออกมายิงเพื่อรับขบวนขันหมาก จากนั้นเพื่อน ๆ ของลูกสาวที่มาร่วมงาน ก็นำปืนออกมายิงกันด้วย ยอมรับว่ากระทำการเกินกว่าเหตุ ต่อมานำอาวุธปืนลูกซองยาวที่ยิงขึ้นฟ้า มามอบให้กับตำรวจ 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีนบรรจุกระสุน 1 อัน จนท.ตรวจสอบพบเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะแจ้งข้อหา ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ส่วนผู้ที่ร่วมยิงปืนอีก 3 ราย เดินทางตามมาที่ สภ.ปลายพระยา มามอบตัวพร้อมด้วยอาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก ตรวจสอบพบเป็นปืนไม่มีทะเบียน จึงดำเนินคดีทั้ง 3 คน ใน 3 ข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือมีเหตุเร่งด่วนสมควรตามพฤติการณ์ และ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ ฝากเตือนถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับบุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ใกล้เคียงได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้กระทำเรื่องในทำนองนี้เป็นอันขาด หากเกิดกรณีเช่นนี้อีกทางตำรวจ จะไม่นิ่งนอนใจให้ผู้กระทำความผิดลอยนวลเป็นอันขาด.
