ปราจีนบุรี – ยาย 63 ปี ช็อกช้างป่าสีดอโหนกเคาะหน้าต่างบ้านใน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โผเข้าเกาะขาองค์ ร.5 แน่น
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีช้างป่าสีดอโหนกออกจากชายป่าบุกเคาะหน้าต่างบ้าน ยายวัย 63 ปี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ช้างป่าสีดอโหนกเข้ามาซ่อนตัวเพื่อหากินอยู่ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ประมาณ 1 กม.โดยช้างป่าสีดอโหนกมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าอ่างฤาไนและเจ้าหน้าที่ อบต.เขาไม้แก้ว ติดตามช้างเพื่อผลักดันออกจากพื้นที่ กระทั่ง มาพบช้างป่ามายืนกินต้นกล้วยอยู่ที่หน้าบ้าน คุณยายอรนุช ฉิมสวัสดิ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/1 ม.5 ต.เขาไม่แก้ว อ.กบินทร์บุรี และเข้าไปกินต้นกล้วยและมัน 5 นาที ภายในบ้านและผลักดันออกจากบ้านหลังดังกล่าวในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านยายอรนุช สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า ทางเจ้าหน้าที่และญาติได้นำตัวยายอรนุช ออกจากบ้านพักไปค้างที่บ้านญาติ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ยายอรนุช กล่าวว่า ช่วงพบค่ำเมื่อวานนี้ ขณะที่นั่งดูทีวีอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงโครมคราม อยู่ที่หน้าบ้านอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้ออกมาดู คิดว่า อาจมีคนที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาอยู่ถนนหน้าบ้าน รถเสียอยู่ที่หน้าบ้าน จึงไม่ได้สนใจ ขณะนั้นได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวาย ก็ยังไม่ได้สนใจอะไร ยังคงนั่งดูทีวีอยู่ภายในบ้าน เพราะบ้านหลังดังกล่าวมีตนอาศัยอยู่เพียงคนเดียว กระทั่งเสียงได้ยินดังโครม ๆ ใกล้ ๆ ที่หน้าต่างบ้าน คิดว่า อาจจะมีคนร้ายมางัดหน้าต่างบ้าน เพื่อจะเข้ามาลักทรัพย์สิน ใจคอไม่ดี จึงเดินมาเปิดหน้าต่างดู
ยายอรนุช บอกว่า ทันใดนั้นตาก็ตกใจ เมื่อเห็นช้างตัวสูงใหญ่กำลังใช้งวงเคาะหน้าต่าง เพื่อที่จะดึงหน้าต่างออก ถึงกับเดินเป็นลมหงายหลังตึงอยู่ภายในบ้าน แล้วค่อย ๆ คลานออกจากหน้าต่างมาที่กลางบ้าน และตรงเข้าเกาะขารูปหล่อเสด็จพ่อ ร.5 ที่ตั้งบูชาไว้ภายในบ้าน และอธิษฐานว่า เสด็จพ่อ ร.5 ช่วยลูกด้วย ลูกกลัว จากนั้นค่อย ๆ ตั้งสติแล้วคลานออกมา เข้าไปอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่ง และได้ยินเสียงคนโวยวายร้องตะโกน บอกว่า อย่าออกมาจากนอกบ้าน กำลังผลักดันช้างออกไป เวลาต่อมา มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาพยุงร่างออกจากบ้าน และญาติได้พาตัวออกไปนอนค้างที่บ้านญาติอีกหลัง
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางคุณยายฯ ฝากถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจและแก้ปัญหาช้างป่าที่เข้ามาหากินในพื้นที่อย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ เห็นประชาชนถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตเหมือนเพื่อนบ้าน ที่ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนตัวเข้าใจช้างว่า มาหากินไปวัน ๆ ไม่อยากให้มาหากินในแหล่งชุมชน สุ่มเสี่ยงจากการถูกทำร้ายร่างกายชีวิตและทรัพย์สิน
———————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
