กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตแรงงานสตรี ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ และทำงานอย่างมีความสุข
วันที่ 10 มีนาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่เครือข่ายสตรีมีข้อเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้า งประเด็นวันลาคลอดบุตร ที่ปัจจุบันให้ลาได้ 98 วัน แต่การจ่ายค่าจ้างครอบคลุมเพียง 90 วัน เนื่องจากข้อกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลูกจ้างลา แต่ไม่เกิน 45 วัน โดยค่าจ้างอีกครึ่งหนึ่ง (45 วัน) จะได้รับจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน ดังนั้น วันลาอีก 8 วัน ลูกจ้างยังไม่ได้รับความคุ้มครอง
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเรียกร้อง และติดตามการปรับปรุงข้อกฎหมาย เพื่อให้นายจ้างและ สปส. ร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้ครอบคลุมวันลาทั้งหมด 98 วัน มาระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน อยู่ระหว่างดำเนินการให้ สปส.เสนอปรับแก้ไขกฎหมาย เพิ่มสิทธิให้แก่ลูกจ้าง
โดยจะปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน จากร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน เป็นร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 98 วัน ซึ่งจะมีผลให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างในวันลาเพิ่มขึ้นจากสิทธิเดิม อีก 4 วัน ในส่วนของค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร อีก 4 วัน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ คณะทำงานประเมิลผลสัมฤทธิ์กฎหมาย เพื่อปรับแก้ไข พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้างต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยฝืนคำสั่งรื้อถอนอาคาร ยังปล่อยให้ต่างชาติเช่าวิลล่า
- เครื่องกั้นรถไฟคลองแขวงกลั่นพังบ่อย ล่าสุดลงปิดขวางถนนนานข้ามคืน
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
“รัฐบาลมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานสตรีมาโดยตลอด รวมถึงนายกรัฐมนตรียังสนับสนุนให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ได้รับสิทธิประโยชน์จากการจ้างงาน มีความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน โดย สปส.เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 13,000 บาทเป็น 15,000 บาท, ค่าสงเคราะห์บุตรจากเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท, ค่าฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพ จากเดิม 1,000 บาท เพิ่มเป็น 1,500 บาท รวมทั้งการตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูกฟรีให้แก่ผู้ประกันตน และการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อการคุ้มครองดูแลแรงงานสตรีให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคม” นางสาวรัชดา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: