ชัยภูมิ – แบกรับภาระต้นทุนน้ำมันแพงเริ่มไม่ไหว สุดอั้นปรับราคาอาหารเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจทุกประเภทฉุดไม่อยู่ เกษตรกรบางรายช้ำหนักค่าอาหารเลี้ยงปลาแพงเกินต้นทุนขาย จำใจควักกระเป๋าเลี้ยงต่อพอให้จับขายได้บางส่วน ดีกว่าปล่อยทิ้งขาดทุนยับไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย พร้อมเตรียมเลิกกิจการหลังสู้ต้นทุนราคาน้ำมันแพงต่ออีกไม่ไหวแล้ว!
( 11 มี.ค.65 ) ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์สูงกว่าลิตรละ 40 บาท ที่ยังส่งผลมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นตามมาต่อเนื่องในขณะนี้ จากวันนี้ ทั้งราคาน้ำมัน เบนซิน = 47.56 บาท/ลิตร ,แก๊สโซฮอล์ 95 = 40.15 บาท/ลิตร ,แก๊สโซฮอล์ E20 = 39.04 บาท/ลิตร ,แก๊สโซฮอล์ 91 = 39.88 บาท/ลิตร ,แก๊สโซฮอล์ E85 = 32.34 บาท/ลิตร ,กลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม ,ดีเซล B7= 29.94 บาท/ลิตร ,ดีเซล = 29.94 บาท/ลิตร ,ดีเซล B20 = 29.94 บาท/ลิตร ,ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 35.96 บาท/ลิตร
ซึ่งเริ่มทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากต้นทุนราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และการราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์แทบทุกประเภท ที่ต้องมีต้นทุนค่าขนส่งจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นตามาอีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้ด้วย
ซึ่งได้มีปรับราคาสูงขึ้นมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมาบางส่วนแล้ว โดยเฉพาะเมล็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง ที่เป็นส่วนหลักสำคัญในการนำไปเป็นส่วนประกอบอาหารเลี้ยงสัตว์แทบทุกประเภทในขณะนี้ได้มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องรวมถึงราคาข้าวโพด อาหารเสริม-วิตามิน-เกลือแร่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ล้วนมีค่าขนส่งสูงตามมาอีกเป็นจำนวนมาก และมีการปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้แล้วมากกว่า 30-40 % แล้ว ในตลาดทั่วไปในต่างจังหวัดในทั่วประเทศ
และส่งผลให้ค่าต้นทุนอาหารสัตว์ทุกประเภทขยับราคาขึ้น หลังจากเกิดวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาอาหารสัตว์พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ตามมาต่อเนื่อง ซึ่งมีการสำรวจตลาดและเกษตรกรในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาอาหารสัตว์ตามร้านค้าอาหารสัตว์ต่าง ๆ ในตัวเมืองชัยภูมิ
ขณะนี้เริ่มพบว่า แต่ละร้านค้าอาหารสัตว์ และจัดส่งไข่ไก่ทั้งปลีกและส่ง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากเกิดปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน และโดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำน้ำที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้สูงกว่าลิตรละ 40 บาท ทำให้ราคาอาหารสัตว์พุ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัวตามมาต่อเนื่อง ทั้งผู้ประกอบการร้านค้าต้องเดือดร้อน ทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทั้งรายเล็กและรายใหญ่
รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหารสัตว์เดือดร้อนไปด้วยหมด ยอดขายเริ่มลดลงไม่มีเกษตรกรรายใหม่เพิ่มเลย รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายเก่า ต้องลดจำนวนเลี้ยงลงเพราะแบกต้นทุนไม่ไหวแล้วในขณะนี้ จะเหลือก็แต่บางรายที่เลี้ยงสัตว์ลงทุนไปแล้ว ก็ต้องจำใจมาซื้อหาอาหารไปเลี้ยงสัตว์ต่อ เพื่อพอให้ถึงช่วงครบเก็บขายได้ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แม้จะขาดทุนก็ตาม และต่อไปคงต้องมีการเลิกเลี้ยงไปเลยเพราะสู้ราคาอาหารสัตว์แพง และโรคระบาดไม่ไหว
ซึ่งด้าน นางณัชฐญา เสฐธนะเวชกิจ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านชัยภูมิเกษตรฟาร์ม ตั้งอยู่ริมถนนสายชัยภูมิ- บ้านเขว้า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บอกว่า ช่วงนี้ทั้งวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงค่าน้ำมันที่แพงมากในขณะนี้เป็นต้นทุนการขนส่งแพงทุกอย่างและขยับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายส่งอาหารสัตว์ขยับราคาสูงขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงเดือนมีนาคม 2565 อาหารสัตว์ทุกประเภทขยับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีแนวโน้มราคาจะสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้นตามอีก
ซึ่งขณะนี้อาหารสัตว์ทุกประเภทแพงขึ้นกระสอบละกว่า 30 บาทแล้ว จากกระสอบละ 300 บาท ขยับสูงขึ้นกระสอบละกว่า 330- 400 กว่าบาทแล้ว โดยเฉพาะอาหารไก่ไข่ ที่แพงขึ้นแทบทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่แทบเลี้ยงไม่ไหวแล้วในขณะนี้
รวมถึงผู้เลี้ยงเกษตรสุกรที่อาหารสัตว์แพง แถมยังต้องเสี่ยงโรคระบาดทำให้เกษตรกรรายย่อยใน จ.ชัยภูมิ ต้องเลิกกิจการเลี้ยงสุกรไปแล้วในเบื้องต้นนับ 1,000 ราย เพราะสู้ราคาอาหารสัตว์ไม่ไหว ทำให้ยอดขายหัวอาหารสัตว์ลดลงจนแทบไม่เหลือลูกค้าในขณะนี้ ส่วนผู้เลี้ยงไก่ไข่ขณะนี้แทบอยู่ไม่ได้ เพราะมีราคาไม่แน่นอน ทำให้ต้องขาดทุนตามมาอีกจำนวนมาก และอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องราคาอาหารสัตว์ในขณะนี้เป็นการด่วนด้วย
ส่วน นางหนูรัตน์ ผู้ค้าที่ร้านสิทธิภัณฑ์ฟาร์ม ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกโรงเลื่อยเก่า ตำบลในเมืองชัยภูมิ อีกรายบอกว่า หลังมีการขยับราคาหัวอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าลดลงมาก เพราะผู้เลี้ยงสัตว์สู้ราคาอาหารสัตว์ไม่ไหว มาจนถึงขณะนี้ราคาอาหารสัตว์ยังขยับมีราคาสูงขึ้นอีกกระสอบละ 30 บาท ทำให้ยอดขายลดลงไม่มีเกษตรกรรายใหม่เลย รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายเก่า ต้องลดจำนวนเลี้ยงลง หรือบางรายต้องเลิกเลี้ยงไปเลยเพราะสู้ราคาอาหารสัตว์แพงไม่ไหวด้วยเช่นกัน
ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา นายยุทธชัย แสงไส อายุ 73 ปี เกษตรกรชาวบ้านเลขที่ 338 หมู่ 15 บ้านใหม่พัฒนา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บอกว่า หัวอาหารปลาเดือนที่แล้วซื้อกระสอบละ 420 บาท ตอนนี้ขึ้นไปกระสอบละ 430-450 บาท ถือว่าต้นทุนในการเลี้ยงปลาสูงขึ้นกว่าจะได้ขายปลาในแต่รุ่น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปได้ จำเป็นต้องเลี้ยงต่อไปจนกว่าจะจับปลาขายได้ถึงจะรู้ว่าขาดทุนแล้วก็ตาม ดีกว่าปล่อยทิ้งไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: