สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดตรัง หากแยกจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามสาเหตุการสัมผัส พบว่าเป็นการสัมผัสในชุมชน มากถึงร้อยละ 68.42 ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพียงร้อยละ 20.40 และกลุ่มเสี่ยง 607 รับเข็มกระตุ้นเพียง ร้อยละ 14
นายราชัน อรุณแสง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สาธารณสุขอำเภอเมืองตรัง ในฐานะรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า วันนี้ (17 มี.ค.65) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดตรัง หากแยกจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามสาเหตุการสัมผัส พบว่า เป็นการสัมผัสในชุมชน มากถึงร้อยละ 68.42 รองลงมา คือ จากการพูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ร้อยละ 17.22 การสัมผัสร่วมบ้าน ร้อยละ 11.96 สัมผัสในที่ทำงาน ร้อยละ 2.39 จะเห็นได้ว่า ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังมาจากการสัมผัสใกล้ชิดในชุมชน ในครอบครัวคนรู้จักกัน และการพูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากเป็นเวลานาน จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา
ปัจจุบัน ประชาชนชาวตรัง เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3 ) เพียงร้อยละ 20.40 และในจำนวนนี้เป็นประชาชนกลุ่มเสี่ยง 607 (ผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค) เพียง ร้อยละ 14 เท่านั้น ซึ่งในช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่จะมีวันหยุดยาวหลายวัน มีการเดินทางไปมาหาสู่กันเพิ่มขึ้น และมีการพบปะสังสรรค์ รวมกลุ่มกันรับประทานอาหารร่วมกัน และอาจพบการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- มหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง อาหารทะเลสดๆ-สินค้าชุมชน ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
นอกจากนี้จังหวัดตรังมีผู้เสียชีวิตด้วยโควิด-19 จำนวน 33 ราย (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-17 มีนาคม 2565) และกว่าร้อยละ 95 ของจังหวัดตรัง มีปัจจัยเสี่ยงเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับแค่ 1 เข็มหรือ 2 เข็ม จึงขอเน้นย้ำทุกคนป้องกันตัวเองสูงสุดแม้ในครอบครัว และเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นให้ครบตามเกณฑ์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ทั้งนี้ การฉีดวัคซีน 2 เข็ม ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไม่สูงมากนัก แต่ยังสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 ค่าภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้นอย่างมาก ช่วยลดการติดเชื้อ แพร่เชื้อ และลดเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้มากขึ้น จังหวัดตรังจึงขอเชิญชวนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้ลงทะเบียนรับวัคซีนเข็ม 3 ตามที่กำหนดด้วย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: