สระแก้ว – ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เตรียมส่งฟ้องศาลวันนี้(19 มี.ค.) กรณีสาวกุเรื่องถูกลักพาตัวดูดเลือดในกัมพูชา หลัง”บิ๊กโจ๊ก”ร่วมกับหน่วยงานกัมพูชา แถลงใน กทม.และนำตัวผู้ต้องหาส่งมายัง จ.สระแก้วเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 18 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น.หลังจากที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศกัมพูชา เข้าช่วยเหลือคนไทยที่ถูกบังคับใช้แรงงาน และสามารถพากลับมาประเทศไทยได้สำเร็จจำนวน 8 ราย หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวที่อ้างว่า ตนได้ถูกกลุ่มคนร้ายชาวจีนในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา นำตัวไปบังคับถ่ายเลือดจำนวน 3 ถุง ทั้งยังถูกทำร้ายร่างกาย และถูกฉีดยาทำให้สลบ ก่อนได้รับการช่วยเหลือจนกลับสู่ประเทศไทยได้นั้น กรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอันมาก เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความทารุณโหดร้ายและสะเทือนขวัญ ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร และ ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยประสานงานกับ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศกัมพูชา เพื่อทำให้ข้อเท็จจริงตามกรณีดังกล่าวปรากฏ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด และหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว ศพดส.ตร. สืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวให้ปรากฏโดยเร็ว
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการซักถามและรวบรวมพยานหลักฐานประกอบคำให้การแล้ว ข้อเท็จจริงปรากฎว่า ผู้เสียหายในกรณีนี้ คือ น.ส.อารียา คมกระโทก อายุ 25 ปี รับสารภาพว่า ตนกับแฟนได้เดินทางไปทำงานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ประมาณต้นปี 2564 โดยทำงานหลอกคนไทยให้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง ก่อนที่ตนจะแยกกับแฟน ย้ายไปทำงานอีกจุดหนึ่งในเมืองปอยเปต ด้วยความเป็นห่วงแฟน ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตนจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปช่วยแฟนของตน จากที่ทำงานจุดเดิมเพื่อกลับประเทศไทย หลังจากทราบว่าแฟนของตนได้รับความช่วยเหลือแล้ว ตนจึงตั้งใจที่จะกลับประเทศไทย โดยตนกลัวว่า จะไม่ได้รับการช่วยเหลือในทันที ตนจึงได้สร้างเรื่องดังกล่าวขึ้น โดยการสร้างตัวละครหญิงไทยชื่อ เนม ขึ้นพร้อมกับสร้างบัญชีเฟซบุ๊กให้ตัวละครดังกล่าว แล้วทำการแชทไปคุยกับแฟนตนเองโดยใช้บัญชีดังกล่าวว่า หญิงไทยที่ชื่อเนมนี้ เป็นคนไทยที่ทำงานที่ร้านอาหารไทยในเมืองพระสีหนุ และได้รับการขอความช่วยเหลือจาก น.ส.อารียาฯ อยากให้แฟนของตนช่วยประสานตำรวจให้เข้าช่วยเหลือตน
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมา น.ส.อารียาฯ ก็ได้สร้างเรื่องต่อว่า ตนถูกย้ายไปหลาย ๆ ที่และถูกกลุ่มคนร้ายชาวจีนถ่ายเลือด ทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะได้หญิงไทยที่ชื่อเนมนี้ เข้าช่วยเหลือ และนำตัวมาส่งที่ชายแดนปอยเปต แล้วอยากให้ตำรวจมารับตน ซึ่งแท้จริงแล้ว ระหว่างที่สร้างเรื่องนั้น น.ส.อารียาฯ ยังคงทำงานหลอกลวงคนไทยอยู่ที่เมืองปอยเปต ก่อนจะเดินทางมาที่ด่านอรัญประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อกลับประเทศไทย โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดฐาน รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความเท็จแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท โดยจะนำตัวไปดำเนินคดียัง สภ.อรัญประเทศ ภ.จว.สระแก้ว
ทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฯ กล่าวว่า ในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกบังคับใช้แรงงานในประเทศกัมพูชานั้น ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของกัมพูชา จนสามารถช่วยเหลือคนไทยได้กว่า 700 คน ในครั้งนี้กลับมีคนไทยสร้างเรื่องราวที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ด้วยการประสานความร่วมมืออันดีระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของกัมพูชา ทำให้การตรวจสอบข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ต่อไปจะกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการการตรวจสอบข้อมูลและการคัดแยกเหยื่อให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกไปบังคับใช้แรงงานดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.h หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 18 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.อารียา คมกระโทก อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่รับสารภาพว่า กุเรื่องถูกลักพาตัวดูเลือดในกัมพูชา ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวน จะนำตัว น.ส.อารียา ฯ ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระแก้วในช่วงสายวันนี้ (19 มี.ค.65) ทันที
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: