เชียงใหม่ : นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานกิจการสาขาพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมการประชุมเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์สัญจรของภาคเหนือ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ภาคเหนือ นำโดย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดขึ้น ท่ามกลางตัวแทนและสมาชิกพรรคจาก 16 จังหวัดภาคเหนือที่เข้าร่วมกว่า 150 คน และร่วมกันให้การต้อนรับนายจุรินทร์อย่างอบอุ่น โดยมีการมอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจ พร้อมร่วมถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ กับภาคเหนือนั้น ผูกพันกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่มีการจดทะเบียนตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ในปี พ.ศ.2489 โดยคณะผู้ก่อตั้งพรรค 45 คน เป็นคนเหนือถึง 10 คน จากความผูกพันนี้จึงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า คนภาคเหนือนั้นไม่เคยทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทิ้งคนภาคเหนือ ทำให้เชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จากที่มี สส. ในภาคเหนือเพียงคนเดียว จะสามารถได้จำนวน สส.เพิ่มขึ้นแน่นอน
“สำหรับนโยบายการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาภาคเหนือให้เจริญรุ่งเรืองในอนาคต คณะทำงานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ ได้ประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเหนือ รวม 6 ด้าน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจพาทุกคนให้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ให้ได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อให้มีความชัดเจนในรายละเอียดเพื่อนำไปเสนอต่อพี่น้องประชาชนในทุกจังหวัดของภาคเหนือต่อไป”
นายจุรินทร์ ย้ำอีกว่า แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญใน 3 เรื่องได้แก่ หนึ่ง การเกษตรและเกษตรกร สอง การค้าชายแดนและผ่านแดน ภายใต้นโยบาย“เชื่อมเหนือเชื่อมโลก” และ สามการท่องเที่ยว ซึ่งภาคเหนือนั้นมีด่านชายแดนถึง 29 ด่าน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะผลักดันให้มีการยกระดับจากด่านชั่วคราวให้เป็นด่านถาวร เพื่อเป็นช่องทางส่งออกสินค้าต่าง ๆ ของภาคเหนือไปยังประเทศต่าง ๆทั้ง จีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
“ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ ได้กำหนดนโยบายการพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์ของภาคเหนือ เพื่อสร้างสิทธิ ความเท่าเทียม รวมถึงการเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของภาครัฐให้ดีมากขึ้น ดังนั้นโดยรวมแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะเน้นการสร้างอนาคต สร้างประโยชน์ให้กับคนภาคเหนือเป็นสำคัญ”
พร้อมกันนี้ นายจุรินทร์ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งว่า จากหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม ปี 2564 ทำให้มีการปรับเขตการเลือกตั้งใหม่ โดยส่วนของภาคเหนือ จากเดิมมีเขตเลือกตั้ง 62 เขต จะเพิ่มเป็น 7 เขต ขณะนี้ ทางนราพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ และนายนิพนธ์ ประธานกิจการสาขาพรรค ได้ร่วมกันเตรียมการพร้อมแล้วถึงร้อยละ 90 รวมจำนวน 53 เขต และที่เหลือจะแล้วเสร็จทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้ ส่วนการคัดผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้มีผู้สนใจที่เป็นเลือดใหม่ ยื่นความจำนงค์เข้ามาเป็นจำนวนมาก เช่น พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางพรรคจะมีใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกให้ได้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นตัวแทนพรรค เพื่อสร้างประโยชน์อย่างสูงสุดต่อทั้งพรรคและพี่น้องประชาชน
ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมีความตั้งใจที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในพื้นที่ภาคเหนือ จึงต้องขอพลังความร่วมมือของพี่น้องสมาชิกในการช่วยกันทำงานอย่างหนัก เพื่อพรรค และเพื่อภาคเหนือ NorthDem เป็นหนึ่งในกิจกรรมต่อไปที่ตนจะขับเคลื่อน ด้วยการเชิญคนรุ่นใหม่ เชิญพี่น้องหลายๆกลุ่ม พี่น้องในหลายๆอาชีพ เข้ามาทำกิจกรรมกับเรา โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็เข้ามาทำงานทางเมืองด้วยกันได้ ซึ่งท้ายสุดเชื่อว่า เมื่อคนกลุ่มต่างๆเข้ามาสัมผัส จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคในที่สุด และอีกประการ “ตุ้มช่วยอีกแรง” โดยตนจะอาสาเข้ามาช่วยพี่น้องประชาชนอีกแรง ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และสุดท้าย ประชาธิปัตย์ ต้องกลับมายิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: