เชียงราย-ชายแต่งหญิง ย่องก่อเหตุขโมยเงินในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย สุดท้ายถูกรวบ! อ้างตกงานหาเงินส่งลูกเรียน
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย รวบตัวนายอภินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว ต.แม่ต๋า อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หลังก่อเหตุแอบย่องเข้าบ้านช่วงปลอดคน และรื้อค้นขโมยทรัพย์สิน พบก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ใน อ.ขุนตาล ล่าสุดได้ใส่วิกผมยาว แต่งตัวคล้ายผู้หญิง หวังตบตาเจ้าหน้าที่ ไปก่อเหตุย่องเข้าขโมยเงินในร้านค้าวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้ทรัพย์สินไป 18,700 บาท เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมาหลังจากได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บุญเรืองได้ลงพื้นที่ร้าน ช.รวมช่างเมทัลชีท เลขที่ 454 ม.13 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิด ก็พบว่าคนร้ายได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง ใส่วิกผมยาว ใส่เสื้อยกทรง ทีแรกยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่ภายหลังจากที่เจ้าของร้านค้าที่เสียหายได้แชร์ภาพลงในสื่อโซเซียล ก็ได้รับแจ้งเบาะแสว่าคนในคลิปวีดีโอมีลักษณะท่าทางคล้ายกับบุคคลต้องสงสัยที่ไปเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านสันติชัย ต.แม่ต๋ำ อ.พญาเม็งราย เจ้าที่ ตร.สภ.บุญเรือง จึงประสานขอความร่วมมือไปยัง สภ.พญาเม็งราย จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวภายหลังที่จับกุมผู้ต้องหามาได้ ก็ได้รับการประสานจาก สภ.ขุนตาล ว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เคยแต่งชุดผู้หญิงไปก่อเหตุลักขโมยในพื้นที่ อ.ขุนตาล มาแล้วครั้งหนึ่ง และยังบุกย่องเข้าไปในบ้านในช่วงเวลากลางวัน โดยไม่มีการปิดบังใบหน้าอีกหนึ่งครั้ง มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบร่วมกันก็พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริง และตัวผู้ก่อเหตุก็ยอมรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยได้แต่งตัวเป็นผู้หญิงเพื่อตบตาเจ้าของบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วก็นำเอาเสื้อผ้า วิกผมไปโยนทิ้งไว้ที่ร่องน้ำข้างทาง ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 8 กม. ส่วนเงินที่ขโมยมาได้ ได้นำเอาไปใช้หนี้หมดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยแปลงตัวหรือปลอมตัว โดยใช้ยานพาหนะ ตามคดีอาญาของ สภ.บุญเรือง คดีที่ 42นายอภินันท์ ผู้ก่อเหตุเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภูมิลำเนาเดิมอยู่ ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน แต่มาได้ภรรยาอยู่ที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เดิมทีประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่ภายหลังมีภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด จึงไม่ค่อยมีงาน ค้าขายตลาดนัดก็ขายไม่ได้ หมดสิ้นหนทาง จึงตัดสินใจก่อเหตุลักขโมย โดยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูก 2 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ม.ปลาย และมหาลัยดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงรายที่ร้าน ช.รวมช่างเมทัลชีท ศึ่งเป็นที่เกิดเหตุครั้งล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดย น.ส.สุจิตรา ธรรมใจกูล อายุ 38 ปี เสมียนของร้าน ช.รวมช่างเมทัลชีท เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มี.ค. หลังได้เข้ามาทำงาน เมื่อเดินเข้ามาในออฟฟิศ ก็พบว่าลิ้นชักโตะถูกเปิดคาไว้ ตนรู้สึกตกใจจึงไปเรียกน้องๆในที่ทำงานมาดู ก็พบว่าลิ้นชักถูกงัด จึงไปดูกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเข้ามาจากด้านข้างโรงงานและเดินตรงมาที่ออฟฟิศและเปิดประตู ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงาน โดยไล่มาทีละโต๊ะ เมื่อเห็นว่าโต๊ะแรกไม่มีอะไรก็เดินมาดูอีก 2 โต๊ะใกล้กัน แต่ทั้งสองโต๊ะถูกล็อกกุญแจไว้ เขาก็เลยเดินออกไปหาของมางัดแล้วก็เดินกลับมาเป็นรอบที่ 2 จากนั้นก็นำเอาคีมมางัดโต๊ะ ได้เงินไปประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินกองกลางที่พนักงานใช้ด้วยกัน ซึ่งผู้ก่อเหตุลักษณะดูคล้ายผู้หญิง แต่เมื่อสังเกตดูดีๆก็พบว่าน่าจะเป็นผู้ชายมากกว่า“หลังจากได้ตัวคนร้ายแล้ว ทางร้านก็ได้วางมาตรการเข้มกว่าเดิม โดยจะดำเนินการซ่อมแซมประตูออฟฟิศให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ และจะปิดล็อคให้แน่นหนากว่าเดิม ส่วนเงินกองกลางก็จะหาคนดูแลรับผิดชอบ ไม่เอาทิ้งไว้ที่ทำงานอีกแล้ว” น.ส.สุจิตรา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: