ตรัง – ผู้ประกอบการขนมเค้กเดือดร้อนหนักจากวัตถุดิบที่แพงลิบ ทั้ง น้ำมันเนย ที่ผลิตจากไขมันปาล์มน้ำมัน ไข่ ผงฟู แป้งสาลี น้ำตาล เป็นต้น ทำเดือดร้อนหนัก
นายยี่เค้ง วงศ์สัมพันธ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการขนมเค้ก จ.ตรัง และเป็นเจ้าของร้านเค้กรสเลิศ เขตเทศบาลนครตรัง กล่าวถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการขนมเค้ก จ.ตรัง ซึ่งเป็นสินค้าของฝากขึ้นชื่อของ จ.ตรังว่า เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนานที่ทุกร้านประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิดไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้หลายร้านต้องปิดกิจการไป ส่วนตัวเองขณะนี้อยู่ได้ เพราะอาศัยโครงการคนละครึ่ง แต่ทุกร้านที่เหลือขณะนี้ก็เดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาวัตถุดิบทุกชนิดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากราคาน้ำมันแพง ทำให้วัตถุดิบในการทำขนมทุกชนิดปรับราคาขึ้นตาม โดยผู้ประกอบการอย่างพวกตนต้องแบกรับต้นทุนมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งอั้นราคาไม่ไหว มีการประกาศปรับราคาขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประมาณกล่องละ 10 – 20 บาท และลดปริมาณการผลิตลง แต่นับจากเดือนกุมภาพันธ์มา ราคาวัตถุดิบก็ยังมีการปรับราคาขึ้นต่อเนื่องทุกชนิด ทั้ง แป้ง น้ำตาล น้ำมันเนย ผงฟู มาการีน รวมทั้งไข่ แต่ขณะนี้พวกตนจะปรับราคาขึ้นอีกไม่ได้แล้ว เพราะมีการปรับราคาขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเคยปรับครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2557 โดยในการปรับราคาขึ้นครั้งนี้ ก็มีการขึ้นป้ายประกาศให้ลูกค้าเห็นชัดเจน ทั้งนี้ วัตถุดิบบางชนิดปรับราคาขึ้นกว่า 100 % บางชนิดมากกว่า 2 เท่า เช่น เนยมาการีน ปรับราคาขึ้นจากกระปุกละ 420 บาท เป็นกระปุกละกว่า 700 บาท รวมทั้งกลิ่นปรุงแต่งต่างๆ ผงฟู จาก 400 บาท ราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,000 บาท ซึ่งผงฟูมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ในการทำขนมเค้ก และบางบริษัทที่ตนเองสั่งซื้อผงฟู ขณะนี้หยุดผลิตไปแล้ว เพราะสู้ราคาวัตถุดิบไม่ไหว
โดยไข่ขณะนี้ก็มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของไข่นั้นราคาจะขึ้นๆลงๆ ซึ่งแตกต่างจากวัตถุดิบชนิดอื่น ซึ่งเมื่อมีการปรับราคาขึ้นแล้วจะไม่มีการปรับลงอย่างเด็ดขาด ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากเดิมสามารถจำหน่ายขนมเค้กได้วันละ 20,000 – 30,000 บาท แต่ขณะนี้เหลือประมาณวันละ 5,000 – 6,000 บาทเท่านั้น ยังไม่พอค่าเช่าร้าน ทั้งนี้ ในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่ของฝากขายดีที่สุดกว่าทุกเทศกาล ก็หวังว่ารัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการ รวมทั้งจังหวัดตรังจะผ่อนคลายมาตรการเนื่องจากคนได้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ควรจะปล่อยให้มีการท่องเที่ยวได้ เพื่อคาดหวังว่าจะทำให้บรรยากาศกลับมาดีขึ้น จะได้กระตุ้นบรรยากาศการเดินทางและซื้อสินค้า
