กรุงเทพฯ – ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกรอบวงเงินเบื้องต้น 45,102.65 ล้านบาท ลดภาระค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพขนส่ง ผู้มีรายได้น้อย แรงงาน และเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ จากราคาพลังงานที่สูงขึ้น
วันที่ 29 มีนาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน จากสถานการณ์ราคาพลังงาน อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย กรอบวงเงินเบื้องต้น 45,102.65 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพใก้แก่ประชาชน และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง รวมถึงดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มแรงงานและกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ มาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย
1.ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) เดือนละ 15 บาทต่อถัง เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2565 โดยราคาก๊าซหุงต้มเดือนเมษายน ถังละ 333 บาท, เดือนพฤษภาคม 348 บาท และเดือนมิถุนายน 363 บาท กรอบวงเงินเบื้องต้น 6,380 ล้านบาท ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผู้บริหารจัดการ
2.ตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ (NGV) ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1,590 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
ข่าวน่าสนใจ:
3.ลดค่าผันแปรไฟฟ้า (Ft) ลง 22 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ให้แก่ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน กรอบวงเงินเบื้องต้น 2,000-3,500 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
4.ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่พฤษภาคม-มิถุนายน 2565 อัตราชดเชยประมาณ 8 บาทต่อลิตร กรอบวงเงินเบื้องต้น 33,140 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกรมสรรพสามิต เป็นผู้บริหารจัดการ
5.ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 1.57 แสนคน จะได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน (5 บาทต่อลิตร รวม 50 ลิตร) เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 120 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
6.แท็กซี่มิเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการลมหายใจเดียวกัน จำนวน 17,460 คน สามารถซื้อก๊าซ NGV ได้ในราคาพิเศษ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม วงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 171 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
7.เพิ่มส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน จากเดิม 45 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 200 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
8.ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 5,500 คน ได้รับส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1.65 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
9.ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้าง 4.9 แสนราย และลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน จาก 5% เหลือ 1% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2565
10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน จาก 9% เหลือ 1.9% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 10.7 ล้านคน จาก 70-300 บาท ลดลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2565
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก แถลงต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่น ๆ อาทิ
1.การดูแลกลุ่มเกษตรกร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการจัดทำแนวทางช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรโดยการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพงและปุ๋ยขาด รวมถึงปัญหาอาหารสัตว์
2.ยกเลิกการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพรีเมี่ยม ตั้งแต่แมษายน 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ใช้กับกลุ่มรถยนต์ของผู้ที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อลดภาระการสนับสนุนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
3.การสนับสนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพของราคาพลังงานของประเทศ โดยพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนน้ำมันฯ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุนน้ำมันฯ
4.การดูแลกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาลดอัตราหรืองดจัดเก็บค่าใช้จ่ายในการต่ออายุทะเบียนรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะในปี 2565
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า มาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไป ที่ประชุม ครม. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสม ตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ความพร้อม และความสามารถทางการเงินของภาครัฐ ภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: