X

พบกระทิงตาย ในป่ากุยบุรีพร้อมลูกในท้อง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ

พบกระทิงตาย ในป่ากุยบุรีพร้อมลูกในท้อง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พบกระทิงตาย ขณะสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์พบลูกในท้อง 1 ตัวด้วย ที่บริเวณหุบคนใต้ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุตายมาแล้ว 2-3 วัน โดยทางสัตวแพทย์ได้ตัดชิ้นส่วนอวัยวะภายใน ส่งตรวจห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

(วันที่ 6 เมษายน 2565) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจากนางสาวสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจาก นายไพฑูรย์ หูทิพย์ ชาวบ้านว่าพบกระทิงตาย จำนวน 1 ตัว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้า ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบซากกระทิงนอนตายบริเวณร่องห้วย บริเวณหุบคนใต้ หมู่ 6 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากชายป่า ประมาณ 400 เมตร ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผลการตรวจสอบซากเบื้องต้น เป็นกระทิงเพศเมีย อายุประมาณ 3-5 ปี น้ำหนักประมาณ 500-600 กิโลกรัม สภาพร่างกายภายนอก ไม่พบบาดแผล หรือ รอยโรค ตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นจึงแจ้งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และนางสาวภาวิณี แก้วแกม สัตวแพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย เข้าร่วมตรวจสอบและผ่าพิสูจน์ซากเพื่อหาสาเหตุการตาย ที่แท้จริง

ผลการตรวจสอบและผ่าพิสูจน์ซาก เขามีความกว้างระหว่างปลายเขา 42 เซนติเมตร ระยะที่กว้างที่สุดของเขา 54 เซนติเมตร ความยาวของเขาด้านนอก 42 เซนติเมตร เส้นรอบวงโคนเขา 26 เซนติเมตร ลำตัวมีความสูง ประมาณ 1.50 เมตร ความยาวโคนหางถึงคอ ประมาณ 1.90 เมตร

ทีมสัตวแพทย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย พบว่า หัวใจมีเลือดคั่ง มีน้ำอยู่ในถุงหุ้มหัวใจ และมีลักษณะลายเส้นสีขาว ๆ ผนังเนื้อของหัวใจ ปอดมีลักษณะช้ำ มีฟองอากาศ ที่เนื้อปอดมีเลือดคั่ง ตับมีลักษณะบวม ภายในลำไส้มีแก๊ส ตามลำตัวมีฟองอากาศเกิดขึ้น และพบลูกในท้อง จำนวน 1 ตัว เพศเมีย แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ จึงได้ทำการตัดชิ้นส่วนอวัยวะภายใน ส่งตรวจห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาวัตถุด้วยเครื่องสแกนโลหะ ตามร่างกาย ไม่พบเศษชิ้นส่วนของโลหะทั้งภายในและภายนอกร่างกายแต่อย่างใด
หลังจากนั้นอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และทีมสัตวแพทย์ลงความเห็นว่า เห็นควรทำลายซากด้วยวิธีฝังกลบซากในพื้นที่ตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อสู่สัตว์ป่าอื่นๆ ต่อไปโดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน