วันที่ 10 เมษายนเวลา 00.50 น. ร.ต.อ.วิชัย ชัยวรณ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ดอกคำใต้ จ. พะเยา รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณบ้านสวน เลขที่ 3 หมู่ 8 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชรพ. ดอกคำใต้ชุดกู้ภัย อบต. บ้านปิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ดอกคำใต้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวนห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม. อยู่กลางทุ่งนา พบศพรายแรก ชื่อนาย กัษณ อัมพุธ อายุ 49 ปีบ้านเลขที่ 54/2 หมู่ 3 ตำบลหลวงใต้อำเภองาวจังหวัดลำปาง นอนจมกองเลือดข้างรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสีดำแผ่นป้ายทะเบียนหัก อยู่บริเวณหน้าประตูรั้วทางเข้าสวน
และห่างไปอีก 500 เมตรพบศพผู้เสียชีวิตอีก1ราย ชื่อนายไพโรจน์ทะลิ อายุ 55 ปีบ้านเลขที่ 105 หมู่ 4 ตำบลหนองหล่มอำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา นอนคว่ำในสภาพศพสวมกางเกงลายพรางเสื้อแขนสั้นชึ่งเป็นมือปืนนอนจมกองเลือดมีอาวุธปืนสั้น ไทยประดิษฐ์ขนาด .45 มม ตกอยู่ข้างลำตัวอยู่ข้างบ้านพักในสวน
จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ทราบว่านายไพโรจน์ ทะลิ เป็นคนงานรับจ้างดูแลสวนในวันเวลาดังกล่าว นายไพโรจน์ ทะลิ ได้เข้าไปในสวนชึ่งเป็นเวลาดึกและทางเจ้าของสวนเป็นผู้หญิง (สงวนชื่อสกุล) อยู่เพียงคนเดียวกลัวเป็นอันตรายกับตนเองเลยโทรบอกให้ญาติ คือนาย กัษณ อัมพุธ มาหาที่บ้านสวน และนายไพโรจน์ ทะลิ มือปืนก็ถามโทรหาใครและได้เดินออกไปที่หน้าประตูสวนและกลับมาบอกว่ายิงคนตายหน้าประตูเข้าสวน และเจ้าของสวนจึงวิงวอนขออย่าทำร้ายตนและมือปืนจึงได้เอาปืนของตัวเองยิงขมับตัวเองนอนนตาย ดังกล่าว
หลังจากตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช และชุดกู้ภัย ก็ได้นำศพผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ราย รายแรก นำส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลพะเยา เวลา 05.00 นของเช้าวันนี้และศพรายที่ 2 นำส่งรพ. พะเยา เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพเวลา 08.00 น.ของเช้าวันนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากเกิดฝนตกหนักทางเข้าบ้านสวนยากลำบากมีแต่ขี้โคลน และมืดสนิทต้องรอฝนซาถึงได้นำศพออกมาในเช้าวันนี้ได้และนำศพทั้งสองส่งแผนกนิติเวช รพ. พะเยา ทำการชันสูตรศพ พลิกศพต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายไพโรจน์ ทะลิ มือปืนซึ่งได้เป็นคนงานเฝ้าสวนในบ้านสวน และสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลาเพราะมีกุญแจ ก่อนเกิดเหตุ มือปืนได้เปิด มาและไปเคาะประตูห้องของเจ้าของสวนซึ่งเป็นผู้หญิง จนเจ้าของสวนต้องโทรหาญาติจนถูกยิงตาย ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะหึงหวงเจ้าของสวน หรือเข้าใจผิดจนก่อเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนหาสาเหตุทางนี้ต่อไป
