เมียหนุ่มพิการโต้เรื่องที่สามีพูดไม่จริง แต่ถ้าอยากจะหย่าต้องจ่ายค่าเสียหาย 3 แสนบาทจะหย่าให้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นห้องที่นายจักรพงศ์ หรือต้น สุพรรณคงอายุ 39 ปีชาวจ.สุพรรณบุรี ที่พิการขาขวาและมือซ้าย อยู่กับภรรยาและลูกเลี้ยง เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์นายต้น ไปกระโดดสะพานพระราม 4 เพื่อฆ่าตัวตาย
ข่าวน่าสนใจ:
พบว่านางทนงกร แสงเพ็ง อายุ 58ปี ภรรยาและลูกเลี้ยงชาย อายุ 20 ปียังคงพักอาศัยอยู่ในห้อง นางทนงกร เล่าว่าหลังทราบข่าวว่าสามีพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานพระราม 4 เมื่อวานนี้แต่โชคดีมีคนช่วยชีวิตไว้ได้ก่อนพาตัวไปส่งที่บ้านในจ.สุพรรณบุรี ตนอยู่กันกับสามีมานานกว่า 5 ปี แล้วทุกวันก็จะพาสามีออกไปทำมาหากินทุกเช้าด้วยกัน 2 คนเป็นประจำ โดยก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ไม่ได้มีการทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่วันที่เกิดเหตุตนรู้สึกเหนื่อยเหมือนจะไม่สบายเลยไม่ได้ออกไปพร้อมกับสามีจึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ส่วนสาเหตุที่สามีให้สัมภาษณ์กับสื่อพูดว่าร้ายตนก็น่าจะมาจากความเมาเพราะสามีเป็นคนมีนิสัยชอบดื่มเหล้าเลยทำให้ขาดสติ ก่อนหน้านี้สามีก็พยายามจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเรื่องที่ตนถูกกล่าวหาว่าเวลาสามีขอเงินได้มาตนจะแย่งเอาเงินไปทุกครั้งก็ไม่เป็นความจริงเลย เงินที่ตนเอามาก็เอาไปซื้อกับข้าวและใช้จ่ายภายในครอบครัวเป็นปรกติทุกวันอยู่แล้วเรื่องขาเทียมที่ตนต้องเอาไปด้วยทุกครั้งเพราะไม่อยากให้สามีเดินไปในทางที่ผิดไม่ดี ไม่อยากให้เขาไปซื้อยามาเสพซึ่งเรื่องที่สามีพูดไปทั้งหมดตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และอยากถามสามีกลับไปว่าทำแบบนี้ทำไมอยากสร้างกระแสให้คนมาสงสารหรืออย่างไร ถึงขนาดต้องเอาเมียไปประจานแบบนี้ ถ้าเขาอยากจะขอหย่าขาดกับตนตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อก็ยินดีจะหย่าให้แต่ต้องจ่ายค่าเสียหายที่ก่อนหน้านี้ตนเป็นคนดูแลเขามาตลอดเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาทจึงจะยอมหย่าให้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ท่าเรือใต้สะพานพระราม 4 จุดเกิดเหตุพบน.ส.สุรินทร์ พลแสน อายุ 33 ปี รปภ.ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุและเป็นอดีตเพื่อนบ้านห้องเช่าเดียวกัน เล่าว่าวันเกิดเหตุตนเห็นนายจักรพงศ์ เดินออกมาจากตลาดก่อนจะขึ้นไปบนสะพานพระราม 4 มีลักษณะคล้ายคนเมา หลังจากนั้นนายจักรพงศ์ได้กระโดดลงมาจากสะพานตกลงไปในแม่นำ้เจ้าพระยา แต่โชคดีมีคนช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ซึ่งตนกับนายจักรพงศ์ รู้จักกันดีเพราะนายจักรพงศ์ จะชอบมานั่งร้องเพลงขอเงินจากชาวบ้านบริเวณนี้จนรู้จักกันดี
ก่อนหน้านี้นายจักรพงศ์ก็เคยมาเล่าปรับทุกข์ให้ฟังอยู่บ่อยๆว่าอยากจะหนีจากเมียคนนี้เพราะเมียชอบแย่งเงินที่แกหามาได้ไปหมด แกพิการแต่ต้องทำงานหาเลี้ยงทั้งเมียและลูกเลี้ยงที่ไม่ยอมทำงานทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเช่าห้องพักอยู่ติดกันก็จะเห็นนายจักรพงศ์ จะมีปัญหาทะเลาะกับเมียบ่อยมาก บางครั้งเมียก็จะหอบเอาขาเทียมของนายจักรพงศ์วิ่งหนีไป โดยทิ้งแกให้อยู่ในห้อง หลังตนทราบข่าวว่านายจักรพงศ์ มีเจ้าหน้าที่พาตัวกลับไปอยู่บ้านที่ จ.สุพรรณบุรี ก็ยังรู้สึกอดสงสารแกไม่ได้ที่เห็นว่าครอบครัวเขาก็ยังลำบากอยู่แต่พี่เขาก็คงจะมีความสุขมากกว่าก่อนหน้านี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: