ชัยภูมิ – ช่วงเทศกาลสงกรานต์วันสุดท้ายในช่วง 13-15 เม.ย.ของทุกปี ตามความเชื่อของชาวอีสานมาช้านานและชาวชัยภูมิ ที่นับถือพระเจ้าองค์ตื้อ โบราณสถานสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองชัยภูมิเก่าแก่นับหลายร้อยปีอีกจุดที่จะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ต่างนำเครื่องบวงสรวง เซ่นไหว้ มาบูชา และทำพิธี”รำผีฟ้า”ถวาย หลังมีการมาบนบานสานกล่าวขอพรได้สำเร็จผล ให้ตนเองหายเจ็บป่วย และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ที่อยู่ในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก มีป่วยเสียชีวิตมาต่อเนื่องเป็นรายวันเพิ่มอีก 3 ศพ/วัน มียอดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเป็นรายวันยังสูงกว่า 1,500 ราย/วัน ซึ่งในช่วงสงกรานต์วันสุดท้ายปีนี้ประชาชนต่างพากันเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระเจ้าองค์ตื้อรำผีฟ้าถวายเพื่อให้ครอบครัวปลอดภัยจากโรคโควิด-19 กันอย่างคึกคักกว่าทุกปี!
( 15 เม.ย.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ช่วงเทศกาลสงกรานต์วันสุดท้าย ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.65 บรรยากาศมีประชาชนแห่เดินทางไปที่วัดศิลาอาสน์ภูพระ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาไก่เซา ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เพื่อนำเครื่องบูชา เซ่นไหว้ไปกราบขอพรนมัสการ พระเจ้าองค์ตื้อ และทำพิธีศักดิ์สิทธิ์”รำผีฟ้า”ถวาย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ที่มี นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้ส่งเสริมให้เป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ด้วย โดยจะเน้นเข้มงวดในการตรวจคัดกรองประชาชนที่จะเดินทางเข้าพื้นที่วัดฯตั้งแต่ปากทางขึ้นเข้าออกทุกราย
เพื่อเปิดพื้นที่จุดที่ประชาชนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ได้อีกจุด ในเขต อ.เมืองชัยภูมิ หลังหลายพื้นที่ไม่สามารถให้ประชาชนมีการออกมารวมกลุ่มเล่นสาดน้ำในปีนี้กันได้ เพื่อให้หันมาช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในจุดนี้ให้ประชาชนได้พาครอบครัวมากราบไหว้ นมัสการพระเจ้าองค์ตื้อ ซึ่งเป็นพระพุทธ รูปองค์ใหญ่ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 5 ฟุต สูง 7 ฟุต พระหัตถ์ขวาวางอยู่ที่พระเพลา พระหัตถ์ซ้ายพาดอยู่ที่พระชงฆ์ (พระหัตถ์อยู่ในท่าตรงข้ามกับปางมารวิชัย) และมีพระพุทธรูปหินทรายขนาดเล็กสูง 7 นิ้วลักษณะเดียวกันอีก 1 องค์ ตั้งวางอยู่ด้านหน้า ใกล้กันมีพระพุทธรูปอีก 7 องค์ จำหลักรอบเสาหินทราย ประทับนั่งเรียงแถว ปางสมาธิ 5 องค์ ปางเดียวกับพระเจ้าตื้อ 2 องค์ พระพุทธรูปเหล่านี้มีพุทธลักษณะเป็นแบบพระพุทธรูปอู่ทอง มีอายุอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-19 ร่วมสมัยอยุธยาตอนต้น มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 ถึง 19 (ราว พ.ศ. 1701 – พ.ศ. 1900) ถือเป็นสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวชัยภูมิ มายาวนานแต่โบราณ
และในทุกปีจะมีพุทธศาสนิกชน และผู้ที่นับถือในพระเจ้าองค์ตื้อจากทั่วทุกสารทิศในทั่วประเทศ เดินทางมานมัสการพระเจ้าองค์ตื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ พร้อมแม่หมอ จะจัดแต่งเครื่องบวงสรวง ประกอบด้วยเครื่องขันห้า ขันแปด ดอกไม้ ธูปเทียน ของหวาน มานมัสการและปิดทองรูปแกะสลักบนผนังหิน และบริวาร พร้อมจัดตั้งกองผ้าป่ามาถวายให้กับทางวัดศิลาอาสน์เขาภูพระ เป็นจำนวนมากทุกปี
โดยจะมีผู้สูงอายุที่เรียกว่าแม่หมอ เป็นผู้นำประกอบพิธีขอพร และรำบวงสรวง หรือที่ชาวอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า”รำผีฟ้า” ที่มีแคนเป็นเครื่องดนตรีประกอบการรำถวายแก้บนตามความเชื่อชาวอีสานมาช้านาน โดยแต่ละคณะหมอรำฝีฟ้าจะมีไม่น้อยกว่า 5 คน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากได้มาบวงสรวงและรำผีฟ้าถวาย ณ ลานต่อหน้าพระเจ้าองค์ตื้อแล้ว จะทำให้หายจากอาการเจ็บป่วย อยู่เย็นเป็นสุข มีโชคลาภค โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์ตื้อ แห่เดินทางมาทำพิธีรำผีฟ้าบวงสรวงถวายกันแน่นตลอดทั้งวัน และบางคนได้จัดเครื่องนอน อาหารมารับประทานรอคิวกันไม่ขาดสายไปตลอดทั้งวัน ภายในวัดศิลาอาสน์เขาภูพระ เพื่อรอทำพิธีรำผีฟ้าถวายตลอดงาน 3 วัน ก่อนจะเดินทางกลับบ้านตัวเอง เพื่อหวังว่าในปีนี้การมาทำพิธีรำผีฟ้า จะช่วยให้ญาติมิตรคนในครอบครัวตัวเอง พ้นภัยปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ที่ยังระบาดหนักอยู่ในพื้นที่มีการเสียชีวิตล้มตาย เจ็บปวดยังมีแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้นในพื้นที่เป็นรายวันขณะนี้ยังมีอีกจำนวนมาก
ซึ่งมีรายงานจาก นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ สสจ.ชัยภูมิ มีรายงานยอดพบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรายวันนี้วันเดียวเพิ่มอีก 3 ราย/ศพ รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 175 ราย/ศพ และมียอดพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มอีกกว่าวันละไม่น้อยกว่า 1,500 ราย มาต่อเนื่อง ป่วยสะสมรวมแล้วสูงอีกกว่า 27,221 ราย
ขณะที่ นายเบ็ง หล่าซิง อายุ 67 ปี พ่อหมอแคนชาวบ้านโสกปลาดุก ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ที่มาเป่าแคนให้ชาวบ้านรำผีฟ้าถวายต่อหน้าองค์พระเจ้าองค์ตื้อ ได้เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านที่เดินทางมาจะมีการจัดเครื่องขันห้า ขันแปด ดอกไม้ ธูปเทียน ของหวาน โดยจะมีผู้สูงอายุที่เรียกว่าแม่หมอ เป็นผู้นำประกอบพิธีขอพร และรำผีฟ้าบวงสรวง ถวายให้ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของแต่ละคนที่เดินทางมา ที่เป็นความเชื่อของชาวอีสานที่นี่มายาวนาน ซึ่งคนที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายแห่งแต่ไม่หายอาการไม่ดีขึ้น เมื่อรักษาทางหมอผีฟ้า และได้มาบวงสรวงกับพระเจ้าองค์ตื้อ กลับทำให้หายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นกุศโลบายภูมิปัญญาของชาวไทยมายาวนาน ที่เป็นการทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจดีขึ้นอาการเจ็บป่วยก็ดีขึ้น กายป่วยแต่ใจไม่ป่วย อาการเจ็บป่วยก็จะสามารถช่วยให้รักษาหายเร็วได้ ซึ่งในทุกปี เมื่อถึงใกล้ช่วงเดือน 5 จะมีประชาชนเดินทางมาพร้อมกับแม่หมอ มาบวงสรวง แก้บน และรำผีฟ้าถวายพระเจ้าองค์ตื้อ กันจำนวนมากทุกปี
