กรุงเทพฯ – วันที่ 5 เทศกาลสงกรานต์ 65 มีผู้เสียชีวิต 44 คน บาดเจ็บ 332 คน สะสม 5 วัน เสียชีวิต 204 คน บาดเจ็บ 1,452 คน จ.เชียงใหม่ แชมป์อุบัติเหตุ เสียชีวิต บาดเจ็บ สะสม ศปถ.เน้นดูแลประชาชนเดินทางกลับ เข้มเส้นทางสายหลัก-สายรอง คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
วันที่ 16 เมษายน 2565 ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่่่่่ 15 เมษายน 2565
เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง
บาดเจ็บ 263 คน
เสียชีวิต 44 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 39.35 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.52
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 77.70 รถกระบะ 11.87
ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 32.85 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 39.35
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 20.01-21.00 น. ร้อยละ 8.30 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 22.48
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เชียงใหม่ (16 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด เชียงใหม่ (16 คน)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด เชียงราย (5 คน)
เรียกตรวจยานพาหนะ 394,460 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,111 ราย ความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,323 ราย ไม่มีใบขับขี่ 17,729 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11-15 เมษายน 2565)
เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง
บาดเจ็บ 1,452 คน
เสียชีวิต 204 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (60 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (58 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด เชียงใหม่ (8 คน)
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 12 จังหวัด
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ระบุว่า วันนี้ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ศปถ.จึงประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก แก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น
จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ
ขอบคุณภาพจาก : อาสากู้ภัย
