ความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองห้างทองยั่งฮับเต็ง แอนด์ จิวเวอรี่ ซึ่งตั้งอยู่ในห้างบิ้กซี ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา กวาดสร้อยคอทองคำไป 13 บาท 50 สตางค์
ล่าสุดเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 20 เมย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน จ.ปัตตานีสามารถตามแกะรอยและจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ชื่อ นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือแอ๊ด อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ประวัติเคยเป็นอาสาสมัครกู้ชีพปัตตานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ตามหมายจับที่ 194/2565 ลงวันที่ 19 เมษายน 65 โดยตามไปจับกุมตัวได้บริเวณหน้าร้านบูมเมอร์แรง ถนนนิพัทธิ์ภักดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากการตรวจค้นในตัวยึดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 เส้นหนักประมาณ 3 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นจัดงานแถลงข่าว เทศกาลสุดออนซอนแห่งปี! “PlaraMorlum” Isan to the World ระหว่างวันที่ 26-29 ธันวาคม 2567 ณ ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- พบศพต่างชาติลอยอืดกลางอ่าวสัตหีบ สวมกางเกงตัวเดียว ข้อมือสัก อักษร HOPE CLUB ยังไม่ทราบว่าถูกฆ่าโยนทิ้งทะเลหรือจมน้ำตาย
และเมื่อเวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ได้นำตัว นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือ แอ๊ด มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนรถ จยย.ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุนั้น ได้นำไปฝากไว้กับเพื่อนที่บ้านเช่าพื้นที่ ม.7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้น และพบรถ จยย.คันก่อเหตุ แต่มีการดัดแปลงโดยการใช้สีสเปรย์พ่นทับเป็นสีบรอนซ์เงิน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีกรายซึ่งเป็นเพื่อน เนื่องจากพบว่าที่มือมีร่องรอยของสีสเปย์ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี
นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือ แอ๊ด ผู้ต้องหา ให้การเปิดเผยว่า ตนไม่ได้เล่นการพนันแต่มีหนี้เงินกู้เยอะมากจึงก่อเหตุเช่นนี้ลงไป โดยตนไม่มีการวางแผนล่วงหน้าแต่อย่างใด แค่ไปดูลาดเลามาก่อนจะลงมือปล้น 1 วัน และไม่เคยก่อเหตุปล้นที่หาดใหญ่หรือที่อื่นมาก่อน เพิ่งก่อเหตุปล้นที่นี้เป็นครั้งแรก และยืนยันว่าไม่มีใครร่วมก่อเหตุปล้นในวันนั้น แต่มีแค่ขอช่วยให้ทำเรื่องรถที่พ่นสีให้เท่านั้น ซึ่งรถที่ใช้หลบหนีก็เป็นของตนเอง โดยทองที่ปล้นมาก็ได้นำไปขายในพื้นที่หาดใหญ่ โดยแบ่งขาย ไปหลายร้าน
ด้าน พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า ก่อนผู้ต้องหาไปชิงทองก็ได้เข้าไปกดเงินที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.อยู่ตรงข้ามห้างบิ๊กซี จากนั้นจึงได้เข้าไปซื้อน้ำในร้านสะดวกซื้อ และผู้ต้องหาได้ถอดแมสก์เพื่อดื่มน้ำจนทำให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดเห็นหน้าตาชัดเจน ทำให้รู้เส้นทางหลังก่อเหตุที่ใช้หลบหนี พร้อมได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับมือถือ สรุปว่าตรงกันทั้งหมด จึงขออนุมัติจากศาล เพื่อขอหมายจับเนื่องจากผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวไปที่ อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
หลังจับกุมได้และขยายผลจึงทราบว่ารถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุยังอยู่ในพื้นที่ปัตตานี จึงเข้าไปตรวจสอบ พบรถ จยย.ที่ซุกซ่อนในบ้านหลังหนึ่ง และมีการพ่นสีเพื่อดัดแปลงรถจากเดิมสีดำ พ่นสีเป็นสีบรอนซ์เงิน และยังพบได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน จากที่ดูมือก็พบว่ามีร่องรอยคราบของสีติดอยู่ จึงคุมตัวไว้ หลังจากนี้จะสอบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุหรือหลังก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืน ตรวจแล้วเป็นอาวุธปืนบีบีกัน และยังพบกระเป๋าที่ใส่ปืนและทองอีกด้วย
ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทราบว่าทองที่ชิงมานั่นได้นำไปขายที่ร้านทองทั้งหมด 7 ร้าน ใน อ.หาดใหญ่ ร้านล่ะ 1-2 เส้น คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่เราคลี่คลายได้เร็ว เราพยายามทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า จ.ปัตตานีปลอดภัยที่สุด เหตุการณ์ไม่ใช่เกิดเฉพาะ 3 จังหวัด ที่ไหนก็มีแต่เมื่อเกิดแล้วต้องจับได้ดีที่สุดก็ไม่อยากให้เกิด ส่วนผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุเจ้าตัวมาให้ปากคำ และมีความสอดคล้องทุกอย่างว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง จึงได้ตัดประเด็นเรื่องนี้ไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: