กระบี่-สาวโพสต์เดือดตำหนิร้านอาหารร้านซีฟู้ดที่กระบี่ ด้านร้านอาหารยัน ไม่ได้ขายยำไข่แมงดามีพิษให้ลูกค้า หลังถูกโพสต์ด่าในโซเชี่ยล
วันที่ 22 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโซเชี่ยลฯมีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กกลุ่มชื่อ “พวกเราคือผู้บริโภค” โดยระบุข้อความพร้อมภาพประกอบ เป็นภาพของอาหาร ในจานคือแมงดาทะเล โดยผู้โพสต์เรื่องดังกล่าวระบุข้อความไว้ว่า “ร้านอาหารแห่งหนึ่งปลายหาดนพรัตน์ จ.กระบี่ หน้าร้านโชว์สัตว์น้ำเป็นสารพัดประเภท รวมทั้งแมงดาทะเล ซึ่งตัวหน้าร้านเป็นแมงดาจานทั้งหมดทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ เราสั่งขนาดเล็กมา สิ่งที่ได้มาคือแมงดาถ้วย (เป็นแมงดามีพิษ) ซึ่งมันไม่มีโชว์หน้าร้านสักตัว พอถาม พนง. ว่านี่คือแมงดาอะไร นางบอกแมงดาจาน เราเลยบอกแมงดาที่เธอทำให้ฉันมันมีพิษกินไม่ได้ นางเถียงคอเป็นเอ็น ขายมา 12 ปีแล้ว ไม่มีใครเป็นอะไร ก็รับมาแบบนี้จะให้ทำไง ถ้าเป็นทางร้านจะรับผิดชอบเอง ถ้าเรียกร้อง 30 ล้าน จ่ายไหวไหม พอเราคอมเพลน ก็ทำไม่พอใจ แม่ครัวเจ้าของร้านออกมาโวยวายใส่ลูกค้า”
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของโพสต์ได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านเกิดเหตุ ตามที่เจ้าของโพสต์ระบุ คือที่ร้านนพรัตน์ซีฟู้ด หน้าหาดนพรัตน์ธารา เลขที่ 792/25 หมู่ 3 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบกับนางธัญชิตา ชูสิทธิ์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน สอบถามทราบว่า เหตุการณ์ตามที่หญิงสาวคนหนึ่งนำไปโพสต์ เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. หญิงสาวรายดังกล่าว มาพร้อมกับสามีชาวต่างชาติ เด็กเล็กอีก 2 คน และญาติผู้ชายอีก 1 คน เข้ามาสั่งอาหารในร้าน จากนั้นผู้ชาย 2 คน ที่มาด้วยกันก็เดินไปเล่นสนุ๊กเกอร์ในร้าน ระหว่างรออาหาร โดยหญิงสาวรายดังกล่าวสั่งยำไข่แมงดามาด้วย 1 จาน ซึ่งตนเองเป็นคนทำครัวด้วยตัวเอง ยืนยันว่าแมงดาทะเล ที่นำมาใช้ทำอาหาร เป็นแมงดาชนิดแมงดาจาน สามารถกินได้ไม่มีอันตราย แต่กลับถูกหญิงสาวคนดังกล่าว กล่าวหาว่าเป็นแมงดาถ้วย ซึ่งเป็นแมงดาในกลุ่มที่มีพิษ ใครกินไปอาจถึงแก่ความตายได้
นางธัญชิตา เล่าอีกว่า ตนเองเปิดร้านขายอาหารทะเลที่หาดนพรัตน์ธารา มานานกว่า 13 ปีแล้ว และเป็นคนทำอาหารในครัวเอง จะรู้ดีว่าแมงดาทะเลชนิดไหนกินได้ ชนิดไหนกินไม่ได้ แมงดาทะเลที่สั่งมาขาย ก็สั่งมาจากชาวประมงพื้นบ้านใน จ.กระบี่ ชาวประมงเองก็รู้ดีว่าแมงดาที่นำมาส่ง ต้องเป็นแมงดาจานเท่านั้น แมงดาถ้วยจะมีลักษณะที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือสีของกระดองจะออกสีแดง น้ำตาล แต่แมงดาจาน สีจะออกเทาอมเขียว หางของแมงดาทั้ง 2 ชนิด ก็ไม่เหมือนกัน หางแมงดาถ้วย หรือแมงดามีพิษ จะมีทรงกลม แต่แมงดาจานที่กินได้ จะเป็นทรงสามเหลี่ยม ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำอาหารให้ลูกค้า ไม่เคยผิดพลาด ไม่เช่นนั้นคงอยู่มาไม่ได้กว่า 13 ปี ก่อนนี้ไม่เคยมีปัญหาลักษณะแบบนี้มาก่อน เพิ่งเจอลูกค้าคนนี้เป็นรายแรก ไม่เข้าใจว่าลูกค้าไม่พอใจอะไรหรือเปล่า ซึ่งยำไข่แมงดา ที่สั่งมาวันนั้น ตัวลูกค้าเองก็ยังไม่ได้กินเข้าไป แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามีพิษ นอกจากนี้กรณีที่ระบุว่าอาหารที่ร้านแพง ตนก็มีบิลให้ดู ว่าอาหารไม่ได้แพงเลยสำหรับร้านอาหารทะเล และอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวอีก อยากให้ออกมาอธิบายเรื่องนี้ด้วย เพราะการไปโพสต์แบบนั้น ทำให้ร้านเสียหาย หากไม่ออกมาชี้แจงก็จะดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่ลงข้อมูลไม่เป็นความจริง
ด้าน น.ส.ศิยามินทร์ สุคนธะตามร์ อายุ 28 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน กล่าวด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นวันนั้น ทางตนเองเป็นคนไปรับลูกค้ารายดังกล่าวด้วยตัวเอง ตนเองก็รับรองอย่างดี ตอนยกอาหารมาเสิร์ฟ ก็เอาอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ ยังร้อนอยู่ด้วย แต่ลูกค้ายังไม่กินทันที ทำให้อาหารเย็น พอลูกค้าทักท้วงว่าอาหารเย็นชืด ตนเองก็เอาไปให้ในครัวอุ่นให้ใหม่อีก ส่วนเมนูยำไข่แมงดา ยืนยันว่าลูกค้ายังไม่ได้กินเข้าไปเลย แล้วถามพนักงานว่าแมงดาอะไร ตนก็บอกว่าแมงดาจาน แต่ลูกค้าโวยวายว่าแมงดาจานไม่ใช่แบบนี้ แล้วตะคอกใส่ตนแบบไม่พอใจ ตนเองบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยขายแมงดาที่มีพิษให้ลูกค้า ทางร้านรู้ว่าอันไหนกินได้ อันไหนกินไม่ได้ แต่ลูกค้าคนดังกล่าวก็บอกว่าอย่าเถียงเค้า เค้าทำงานที่อควาเรี่ยมด้วย ตนเองก็บอกว่าหากลูกค้าไม่พอใจ ก็คืนได้ทางร้านจะไม่คิดเงิน แต่เค้าก็ไม่ยกเลิกเมนู จากนั้นก็เรียกเช็คบิล ส่วนภาพที่ลูกค้านำไปโพสต์เป็นภาพแมงดาคว่ำไปในจานนั้น ยืนยันว่าตอนนำมาเสริฟ เราจะหงายท้องแมงดามา ไม่ได้เสิร์ฟคว่ำมาแบบนั้น ที่ผ่านมาหากอาหารทะเลที่สั่งมาขาย ไม่สด หรือไม่สะอาด ตนยอมทิ้งเลย ไม่เคยเอามาเสิร์ฟให้ลูกค้าแน่นอน เพราะตนเป็นคนห่วงภาพลักษณ์ของร้านมาก ไม่เคยทำให้ร้านเสียชื่อมาก่อนเลย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: