X

สมาชิกสหกรณ์ตร.ตรัง ลงชื่อ เรียกร้องเอาผิดกรรมการจัดซื้อที่ดินแพง 3 ไร่ 14.7ล. อึ้ง บ.เอกชนประเมิน 6.2ล.

ตรัง  สมาชิกสหกรณ์ฯ ตร.ตรัง เรียกร้องสอบกรรมการ และลงพื้นที่ดูที่ดินเจ้าปัญหาซื้อขายแพงเกินจริง ราคาเทียบเคียงปี 63 เพียง ตร.ว.ละ 3,000 บาท  ปี 65 สหกรณ์ซื้อ ตร.ว.ละ 11,000 บ. ขณะเดียวกันมีเอกสารหลักฐานเด็ดยืนยันชัด กรรมการจัดหาที่ดินที่คณะกรรมการสหกรณ์ฯแต่งตั้งลงไปสำรวจที่ดิน โดยจ้างบริษัท ไซมอน ลิม และหุ้นส่วน จำกัดประเมินราคาและหาข้อมูลการซื้อขายบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินแปลงที่เสนอขายอย่างน้อย 3 ราย ที่มีการซื้อขายในปัจจุบัน เพื่อเปรียบเทียบราคา ผลบริษัทดังกล่าวประเมินราคา 6,285,000 บาท แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีมติซื้อ 14.7 ล้านบาท

จากกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง  ร้องเรียนสื่อมวลชน และนำสื่อมวลชนดูที่ดินนอกชานเมือง ริมถนนสายเลี่ยงเมือง ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง เนื้อที่ 3 ไร่ 57 ตารางวา ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้ใช้เงินจำนวนมากจัดซื้อรวม 14.7 ล้านบาท หรือสูงไร่ละเกือบ 5 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินของสำนักงานที่ดิน จ.ตรัง ทั้งแปลงเพียง 471,375 บาท ระบุเป็นการซื้อที่แพงเกินจริงหลายสิบเท่า แม้สมาชิกจะทำหนังสือทักท้วง แต่ไม่เป็นผล กรรมการได้แอบนัดโอนโดยไม่บอกสมาชิกไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา  ต่อมาสมาชิกทราบเรื่องจึงร้องเรียนสื่อมวลชนและ เข้าร้องต่อนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดตรัง ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และดำเนินคดีทั้ง อาญา คดีแพ่ง

ล่าสุด สมาชิกสหกรณ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการบำนาญ ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปดูที่ดินแปลงดังกล่าว พร้อมได้ร่วมกันลงชื่อเอาผิดคณะกรรมการจัดซื้อ รวมทั้งคณะกรรมการจัดหาที่ดินที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมา หรือทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้องให้นายทะเบียนจากส่วนกลาง ลงมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วนและตรงไปตรงมา  เพราะในพื้นที่ห่วงการทำงานของนายทะเบียนสหกรณ์ในพื้นที่จะถูกแทรกแซง

ซึ่งหลังจากที่สมาชิกสหกรณ์ลงพื้นที่ไปดูสภาพที่ดินจริงๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาแพงเกินจริง โดยร.ต.ท.นิยม ไทรแก้ว (ข้าราชการบำนาญ)  กล่าวว่า ตนในฐานะที่เคยเป็นคณะกรรมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง มองว่าการซื้อที่ดินแปลงนี้ ที่มีราคาขายจริงสูงเกือบไร่ละ 5 ล้านบาท เป็นราคาที่แพงเกินไป ส่วนตัวไม่ได้มองว่าทุจริตหรือไม่ทุจริต แต่สำหรับจังหวัดตรัง ที่ดินไร่ละ 5 ล้าน จะเป็นที่ดินแปลงที่อยู่ในเขตเมือง  แต่ที่ดินที่ตนและสมาชิกได้ไปดูพบว่าตั้งอยู่ในถนนซอยเล็ก ๆ  ก่อนหน้านี้ในที่ประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตร. ตนได้เสนอให้คณะกรรมการทบทวน และให้หาผู้เสนอขายที่ดินรายใหม่  ซึ่งการซื้อที่ดินแพงเกินจริงสมาชิกสหกรณ์ฯ ย่อมเสียประโยชน์ เพราะสมาชิกต้องรับผิดชอบต่อดอกเบี้ยเงินกู้ที่ใช้ซื้อที่ดิน  ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ตนได้อภิปรายในที่ประชุมขอให้สหกรณ์เพิ่มงวดผ่อนชำระเงินกู้ของสมาชิก ตอนนั้นทางสหกรณ์ฯบอกว่าไม่มีเงินจะขยายงวด แต่ตอนนี้กลับใช้เงินเกือบ 15 ล้านมาซื้อที่ดิน

ร.ต.ท.สรสิทธิ์ ส่งแสง (ข้าราชการบำนาญ) กล่าวว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจเลยเมื่อได้เห็นที่ดิน รู้สึกว่าแพงเกินไป ไม่คุ้มค่า เพราะตนเป็นนักธุรกิจรับซื้อ-ขายที่ดิน มีบ้านเช่าหลายหลัง ซึ่งการจะอ้างว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ใกล้สนามบินนั้นมันไม่น่าเกี่ยวกัน  เพราะที่ดินแปลงนี้อยู่ในซอยเล็ก และต้องพัฒนาเรื่องไฟฟ้า ประปา  ต้องขยายเขตน้ำ ไฟ ต้องใช้เงินเยอะ ซึ่งการซื้อขายที่ดินนี้มีการเสนอให้ทบทวนใหม่ แต่อยู่ ๆ พบว่าได้มีการซื้อขายกันโดยที่ตนไม่ทราบเรื่อง การซื้อที่ดินมาในราคาและต้องลงทุนก่อสร้าง อย่างไรก็ไม่คุ้ม ในฐานะที่ตนอยู่ในวงการซื้อที่ดินมองว่าราคาซื้อขายจริงของที่ดินแปลงนี้อยู่ในช่วงราคา 7-8 ล้านบาท

ร.ต.ท.ธวัชชัย พานิชย์ (ข้าราชการบำนาญ)   กล่าวว่า ที่ดินแปลงนี้ทางเข้าคับแคบ ห่างจากศูนย์ราชการ ห่างจากเมือง ส่วนตัวมองว่าควรจะซื้ออาคารพานิชในเขตเมืองน่าจะคุ้มค่ากว่า หากสามารถทบทวนได้อยากให้มีการทบทวน แต่คงจะยากสักนิดเพราะซื้อขาย โอน กันแล้ว  หากจะเอาที่ดินนี้ไปตั้งจำนอง ธนาคารไหนจะให้บ้างในราคา 14.7ล้าน  ตนคิดว่าไม่มี การออกมารวมตัวเพื่ออยากให้มีการสอบสวนจนไปถึงเบื้องลึก เพราะสมาชิกเกือบ 100% ไม่เห็นด้วย  และตนเห็นว่าควรซื้อที่ดินในเมือง เพราะสมาชิกหลายคนเป็นข้าราชการบำนาญ อายุมาก เดินทางมาติดต่อลำบาก หากตั้ง สนง.สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจที่นี่

ด้านพ.ต.ต. รชต มณีรัตน์   สมาชิก   กล่าวถึงความคืบหน้าในการร้องเรียนต่อนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดตรัง ว่า  ตอนนี้นายทะเบียนสหกรณ์ได้เรียกเอกสารจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง  เพื่อประกอบสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ตนในฐานะผู้ร้องเรียนหาเอกสารเพิ่มเติมเพื่อเทียบเคียงราคาซื้อขายที่ดินละแวกใกล้เคียง รัศมี 1 กิโลเมตร ที่มีการซื้อขาย โอน ตั้งแต่ปี 63  เพื่อส่งให้กับคณะกรรมสอบสวน  ตอนนี้เอกสารพร้อมแล้ว โดยกรรมการตรวจสอบขอเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อสรุปข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา  และจะแจ้งให้สมาชิกทราบ ซี่งทุกอย่างว่าไปตามเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง โดยคณะกรรมการฝ่ายจัดซื้อบอกว่าเรื่องดังกล่าวผ่านมติที่ประชุมใหญ่  แต่การคัดเลือกที่ดินเสนอที่ประชุมใหญ่คัดเลือกมาเพียงแค่แปลงเดียว โดยที่สมาชิกที่มีประมาณ 1,700 คน เกือบจะไม่มีใครรู้เลยว่าที่ดินแปลงนี้ตั้งอยู่ตรงไหน  เมื่อมาดูสถานที่จริงในวันนี้พบว่าอยู่ห่างจากถนนใหญ่มากกว่า 20 เมตร ไม่ตรงตามข้อมูลนำเสนอที่ดิน และพบเป็นถนนแคบ ไม่เหมาะสม แม้จะอยู่ใกล้สนามบิน แต่ราคาที่ซื้อขาย สภาพคล่อง และเงินหมุนเวียนของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ไม่น่าจะซื้อที่ดินในราคาสูงเพื่อสร้างสำนักงาน  และยังต้องให้งบประมาณมาก่อสร้างอาคารสำนักงานอีก 3-4 ล้านบาท  ซึ่งจะต้องใช้เงินทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท  โดยราคาที่ทางสมาชิกได้หามาเทียบเคียงตามคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์พบว่า  เมื่อปี 63 มีการซื้อขายที่ดินในบริเวณใกล้เคียงในราคาตรารงวาละ 3,000 บาท แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรังซื้อในปี 65 ในราคาตารางวาละ 11,000 บาท  ซึ่งราคาต่างกัน 3 เท่า และล่าสุด พบเอกสารหลักฐานยืนยันชัด กรรมการจัดหาที่ดินที่คณะกรรมการสหกรณ์ฯแต่งตั้งลงไปสำรวจที่ดิน โดยว่าจ้างบริษัท ไซมอน ลิม และหุ้นส่วน จำกัด ประเมินราคาและหาข้อมูลการซื้อขายบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินแปลงที่เสนอขายอย่างน้อย 3 ราย ที่มีการซื้อขายในปัจจุบัน เพื่อเปรียบเทียบราคา ผลบริษัทดังกล่าวประเมินราคา 6,285,000 บาท  แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีมติซื้อกว่า 14.7 ล้านบาท  หลักฐานทั้งหมดจะส่งให้นายทะเบียนสหกรณ์ในเร็วๆนี้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน