สระแก้ว – ตำรวจสืบจังหวัดสกัดจับจับรถขนเขมรทะลักเข้าพื้นที่ชั้นใน 14 คนพร้อมผู้นำพาคนไทย ในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หลังมีการเปิดด่านชายแดน ส่วนกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว กองกำลังบูรพา สกัดจับลักลอบตามช่องทางธรรมชาติ รวม 6 จุด เกือบ 100 ราย
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ชุดปฏิบัติการที่ 4 (ชุด นปพ.) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ และ นปพ.ภ.จว.ปราจีนบุรี เข้าสกัดและจับกุม นายไกรวิชญ์ ตุย อายุ 28 ปี ผู้นำพาคนไทย อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.5 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมด้วยแรงต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 4 คน พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒพ-6812 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว้ สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง และเอกสารการตรวจปัสสาวะ พร้อมเอกสารรับรองผลการตรวจจากโรงพยาบาล จำนวน 1 ชุด ได้ที่บริเวณจุดสกัดสามแยกบ้านพระเพลิง 2 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายไกรวิชญ์ ผู้ต้องหาคนไทย กระทำความผิดฐานช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าว ชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ,เสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและขับขี่รถโดยเสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าว ชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจับกุมกลุ่มขบวนการขนแรงงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบเขตอำเภอเขาฉกรรจ์ และจับกุมการนำพาบุคลลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ดสีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒพ-6812 กรุงเทพมหานคร มีพฤติการณ์นำพาบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เข้าไปทำงานยังตัวเมืองชั้นในของประเทศไทย โดยคนกัมพูชากลุ่มนี้และผู้ต้องหา ยอมรับว่า มาจากชายแดน บ.ทัพสยาม อ.ตาพระยา ซึ่งกัมพูชาจ่ายค่าเดินทางหัวละ 6,500 บาท คนขับรถได้เที่ยวละ 2,500 บาท เพื่อไปส่งยังพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงวางแผนเข้าสกัดจับ หลังสอบสวนและทำบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาชาวกับพูชา และคนไทยผู้นำพา และของกลางทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังประเทศไทยมีการเปิดด่านผ่านแดนถาวรทั้ง 2 แห่ง คือ ด่านคลองลึกและด่านเขาดิน แต่ปรากฏว่า ชาวกัมพูชาบางส่วนไม่ยอมเดินทางข้ามแดนตามกฎหมาย เนื่องจากยุ่งยาก มีค่าใช้จ่ายสูง โดยต้องทำพาสปอร์ต มีการลงทะเบียน Thailand pass และต้องมีเงินประกันในวงเงินสูงถึง 1 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 300,000 บาท แรงงานกัมพูชาเหล่านี้จึงเลือกใช้วิธีการลักลอบข้ามแดนแทน โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว และกองกำลังบูรพา สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้แล้ว จำนวนเกือบ 100 ราย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ จำนวน 6 ครั้ง ในพื้นที่หลายอำเภอ เพื่อเดินทางไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน ประกอบด้วย จ.จันทบุรี, จ.ฉะเชิงเทรา, จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ
โดยพื้นที่จับกุมการลักลอบเข้าเมืองทั้ง 6 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณ บ.ใหม่สุขประเสริฐ ม.8 ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แรงงานผิดกฎหมายชาวกัมพูชา จำนวน 34 ราย (ช.17, ญ.17) ,2.บริเวณ บ.ผ่านศึก เขต 1 หมู่ 3 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แรงงานผิดกฎหมายชาวกัมพูชา จำนวน 6 ราย (ช.5, ญ.1), 3.บริเวณ บ.เขาดิน ม.8 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว แรงงานผิดกฏหมายชาวกัมพูชา จำนวน 9 ราย (ช.4, ญ.5) ,4.บริเวณ บ.ทัพเซียม ม.10 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จำนวน 28 ราย (ช.16, ญ.9, ด.ญ.3) ,5.บริเวณ บ.กุดหิน ม.4 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 4 ราย (ช.3 , ญ.1) และ 6.บริเวณ บ.อ่างศิลา ม.5 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 12 ราย (ช.6, ญ.5, ด.ช.1) ซึ่งหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จับกุม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
————————-
