อุบลราชธานี – สาวลาวโอดถูกแท็กซี่ป้ายดำหลอกขึ้นรถส่งด่านชายแดน รีดค่าโดยสาร 2,000 บาท หลังต้องรีบกลับบ้านไปดูแม่ป่วยหนักต้องตัดขาที่ ฝั่งลาว ด้านขนส่งอุบลฯรุดลงพื้นที่ตามหาตัวสั่งปรับ 2,000 บาท ฐานใช้รถผิดประเภท
ผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งโพสต์ ข้อความระบุ ข้อความ “น้องสาวหนูจะกลับบ้านไปดูแลแม่ที่ผ่าตัดขาที่ สปป.ลาว เมื่อคืนนั่งรถ บขส. หมอชิตไปลงที่อุบลตอนเช้าพอถึง บขส. อุบลมีผู้ชายกับผู้หญิงบอกว่ารถตู้ไม่มีเด่วเขาไปส่งตกลงราคาที่ 1,500 จาก บขส.ไปด่านช่องแมคหลังจากนั้นพอขับรถไปเรื่อยๆใช้วาจาข่มขุ่จะทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะเอาเงินเพิ่มอีก 2,500 แล้วถ้าไม่ให้จะพาไปส่งตำรวจ ใครช่วยเหลือได้บ้างโดนข่มขู่ทำร้ายร่างกายไถตังโกงเงินค่ะ”
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นางภูเวียง อายุ 27 ปี ราษฎรแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกแท็กซี่ป้ายดำหลอกขึ้นรถเรียกรับเงินค่าผ่านด่านตำรวจ และ ค่าโดยสาร 2,000 บาท โดยนางภูเวียงเล่าว่า ตนเองได้เดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อกลับบ้านไปดูแม่ที่ป่วยเบาหวานต้องตัดขาอยู่ทาง สปป.ลาว โดยเดินทางมาถึงจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ค.65
ขณะที่ลงรถได้มีชายหญิง 2 คน เดินเข้ามาถามว่าจะไปไหน ตนจึงบอกไปว่าจะไปด่านช่องเม็ก ฝ่ายชายเข้ามายกกระเป๋าแล้วบอกว่ารถตู้ไม่มีแล้ว จะไปส่งพอระหว่างทางได้มีการพูดคุยกันทำให้ชาย หญิงทั้งสองคนทราบว่าหนังสือเดินทางของตนหมดอายุ จากนั้นทั้งสองคนได้อ้างว่าทางที่จะไปมีด่านตำรวจจะต้องจ่ายค่าผ่านทางให้ตำรวจด่านละ 500 แต่ถ้าตนไปเองอาจจะต้องเสียมากกว่านั้น ให้คนไทยไปจ่ายจะขอบวกด่านละ 100 เป็น 600 บาท ต่อด่าน และขอเรียกเก็บเงินไปก่อน 1,200 บาท
ตนเองก็ไม่สบายใจที่จะจ่ายแต่ก็โดนชายหญิงที่พามาด่าอย่างรุนแรงและไม่ให้ลงจากรถ ตนเองไม่ต้องการที่จะมีปัญหาจึงขอจ่ายเพียง 800 บาท จากที่เรียก 2,500 บาท เป็นค่ารถที่มาส่ง ก่อนจะเดินทางไปที่ ด่าน.ตม.เพื่อผ่านข้ามแดนไปตามปกติ หลังจากนั้นก็เล่าให้พี่สาวฟังก่อนจะนำมาโพสต์ลงโซเชียล
ล่าสุด นางกนกเนตร เนตรน้อย ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการให้หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง และ เจ้าหน้าที่ตรวจการ เข้า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สถานีขนส่งผู้โดยสารเฉลิมพระเกียรติ จ.อุบลราชธานี และสอบถามผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถคันดังกล่าว จนทราบตัวเจ้าของรถ พร้อมพนักงานขับรถคันดังกล่าวให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี
โดยในช่วงบ่าย (6 พ.ค.) นางสาวสุธาดา (ขอสงวนนาทมสกุล) คนขับรถวันเกิดเหตุ เดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ถ้อยคำ ที่ กลุ่มวิชาการขนส่งสำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี แห่งที่ 2 ในกรณีที่มีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน 3ฒฉ-5058 กรุงเทพมหานคร มาใช้ในการรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร โดยนางสาวสุธาดา ให้การยอมรับผิดในการนำรถมาใช้รับจ้างรับส่งผู้โดยสารจริง แต่ไม่ได้กรรโชกทรัพย์แต่อย่างใด โดยได้นำผู้โดยสารชาวลาวคนดังกล่าวไปถึงจุดหมายที่ จุดผ่านแดนถาวรด่านช่องเม็ก และได้รับค่าโดยสารเพียง 800 บาทเท่านั้น
นางกนกเนตร กล่าวว่าในส่วนของการนำรถยนต์ส่วนบุคคลคันดังกล่าว มาใช้ในการรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 60 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ส่วนทางด้านคดีความนั้นหากทางผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน อีกครั้ง
