4 ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ร่วมเวทีดีเบตประชันวิสัยทัศน์ ก่อนเลือกตั้งเมืองพัทยา
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
วันที่ 10 พ.ค.65 ที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้จัดเวทีดีเบต ให้ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาทั้ง 4 ได้แสดงวิสัยทัศน์ หมายเลข 1 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ กลุ่มเรารักพัทยา หมายเลข 2 นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 3 นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย คณะก้าวหน้า และหมายเลข 4 นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร กลุ่มพัทยาร่วมใจ
กิจกรรมดังกล่าวจัดโดย สภาผู้ชมผู้ฟังรายการไทยพีบีเอส ภูมิภาคกลาง โดยให้ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาแต่ละคนได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่างๆ ที่ประชาชนเข้าร่วมงานได้ซักถามผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ทั้งเรื่อง การส่งเสริมกลุ่มประมงพื้นบ้าน เรื่องการขุดเจาะถนน ปัญหารถติดและการจราจร ปัญหาหาบเร่แผงลอย และแนวทางในเรื่องของกลุ่มเพศทางเลือกหรือ LGBTQ ในเมืองพัทยา โดยหลังจากผู้สมัครนายกเมืองพัทยาแต่ละคนตอบได้ข้อซักถาม และแสดงวิสัยทัศน์ของตนเอง โดยมีประชาชนถามผู้สมัครนายกเมืองพัทยาถึงมีแนวทางที่พัฒนาปากท้องให้พี่น้องชาวประมงพื้นบ้านอย่างไร ที่จะทำให้ยั่งยืน
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ กลุ่มเรารักพัทยา เบอร์ 1 กล่าวว่า ประมงพื้นบ้านถือเป็นอัตลักษณ์ที่สำคัญของหมู่บ้านชาวประมงในพื้นที่ นาเกลือ ,วงศ์อำมาตย์ และ จอมเทียน สิ่งที่เราเคยทำคือการที่ทำให้สัตว์ทะเลมีมากขึ้น ยั่งยืนขึ้น นั้นคือการทำปะการังเทียม นี่คือส่วนสำคัญ ในหลายๆพื้นที่ เรื่องอัตลักษณ์ของการเป็นประมงพื้นบ้าน สามารถให้ประชาชนเข้ามมาจับจ่ายใช้สอย ซื้ออาหารทะเลสด ทั้งคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่นิยมบริโภคอาหารทะเลสดเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดำเนินการให้มีแหล่งที่จะให้สัตว์ทะเลสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการทำแหล่งปะการังเทียม เพื่อให้สัตว์ทะเลมีที่อยู่อาศัย มีอาหาร และที่เป็นอัตลักษณ์ในการที่เราจะช่วยกันเพาะลูกปลาหมึก และก็ยังสามารถนำเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยข้อสรุปก็คือต้องดำเนินการให้มีการภาคเสริมของปะการังเทียมและให้สัตว์ทะเลมีระบบนิเวศที่ดีขึ้น
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 2 กล่าวว่า เดิมทีสัตว์น้ำเคยทำในศูนย์เพาะเลี้ยงในอำเภอบางละมุง เพื่อที่จะเพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้ได้จำนวนมาก ซึ่งก็ต้องควบคุมการเข้าจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ คือห้ามเข้ามาจับในบริเวณนี้ ปัญหาที่สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือต้องไม่ให้คนต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในพื้นที่ สามารถปฎิบัติและเคารพกฎหมายของบ้านเรา ซึ่งประมงพื้นบ้านในปัจจุบันส่วนใหญ่คือคนต่างด้าวเข้ามาทำเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความเข้มงวด เพื่อไม่ให้ทำการประมงแบบผิดกฎหมาย
นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย คณะก้าวหน้า เบอร์ 3 กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับกลุ่มชาวประมง 4กลุ่ม ที่มีอยู่ในพัทยาก็จะมีที่จอมเทียน ที่นาเกลือและก็วงศ์อำมาตย์ พูดคุยกันถึงปัญหาหลักๆคือการใส่ใจของผู้ที่จะมาเป็นนายกเมืองพัทยา เพราะทั้ง4กลุ่ม พูดตรงกันว่า เขาคือคนที่ถูกทอดทิ้งเพราะเมืองมันโตไปมากเศรษฐกิจมันโตไป เมื่อเศรษฐกิจมันโตกับกลายเป็นผู้บริหารเมืองพัทยาที่ผ่านมาลืมพวกเขาไป เขาอยากมีส่วนร่วมให้ผู้บริหารเข้ามาถามเขาบ้างในหลายๆ เรื่อง การจะทำให้การประมงยั่งยืนต้องมีการบังคับใช้ของกฎหมายมีการวางแผนในระยะยาวในเรื่องของการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและที่สำคัญคือการมีส่วนของผู้บริหารและชาวประมง
นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร กลุ่มพัทยาร่วมใจ เบอร์ 4 กล่าวว่า วิถีชีวิตชาวนาเกลือคือประมงพื้นบ้าน ชีวิตชาวประมงพื้นบ้านนาเกลือได้รับผลกระทบจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเขต 3 ตนเห็นแล้วว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นบนการพัฒนานั้นกำลังจะทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาวประมงพื้นบ้านนาเกลือ เพราะว่าแผนการศึกษาของแหลมฉบังเขต 3 ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เยียวยาคือปัญหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าพี่น้องชาวประมงกำลังได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนได้รับการเยียวยาอยู่แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมงในระยะยาว
ทั้งนี้ ยังแสดงวิสัยทัศน์ เรื่องการขุดเจาะถนน ปัญหารถติดและการจราจร ปัญหาหาบเร่แผงลอย และแนวทางในเรื่องของกลุ่มเพศทางเลือกหรือ LGBTQ ในเมืองพัทยา มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการจัดกิจกรรมแสดงวิสัยทัศน์นายกเมืองพัทยาในครั้งนี้ มีบรรดากองเชียร์และแฟนคลับของแต่ละทีมได้ส่งคนมาร่วมให้กำลังใจพร้อมถือแผ่นป้ายเพื่อสนับสนุนผู้สมัครของตนเองกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศของกิจกรรมเป็นไปอย่างคึกคัก
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
