ตรัง – กรรมการวัดเขาเทียมป่า และผู้ใหญ่บ้าน ร้องสื่อถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน สร้างหลังคาบุษบก โรงธรรม เบิกเงินแล้ว 1 งวด รวม 105,000 บาท แต่ไม่มาสร้างต่อให้เสร็จ กรรมการวัดพยามติดต่อทุกช่องทาง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ด้านวัดมีเงินจำกัด เนื่องจากเงินที่ทำมาสร้าง เป็นเงินบริจาคจากญาติโยม เมื่อเสียเงินไปแล้วส่วนหนึ่งจึงไม่มีเงินมาทำต่อ
ที่วัดเขาเทียมป่า หมู่ที่ 8 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง นายมนัส หมวดเมือง กรรมการวัด และนายสุวัฒน์ นาทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 และเป็นกรรมการวัด และกรรมการวัดคนอื่นๆ นำผู้สื่อข่าวเข้าดูสภาพพื้นที่หลังคาบุษบกเหนือเสาพระภูมิวัด และการก่อสร้างและปรับปรุงโรงธรรมที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงานสร้างความเสียหายแก่วัดและสร้างความเสียใจต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้อยู่ในยุคข้าวยากหมากแพงเงินที่ได้จากการทอดผ้าป่าของปีที่ผ่านมาที่ประขาชนในพื้นที่ และพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญระดมเงิน เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงซ่อมแซมและต่อเติมอาคารทั้งโรงครัว แต่คณะกรรมการวัดเห็นว่าศาลาโรงธรรม ซึ่งประชาชนจะต้องใช้สำหรับประกอบพิธีการทางศาสนา ซึ่งหากชาวบ้านมาที่วัด เพื่อทำบุญทุกครั้ง หรือทุกวันพระ ก็ต้องมาทำพิธีที่ศาลาโรงธรรม แต่ปรากฎว่าหลังคารั่ว ทางคณะกรรมการวัดจึงเห็นว่าควรจะเร่งปรับปรุงหลังคาและทาสีใหม่ศาลาโรงธรรมก่อนเป็นการเร่งด่วน เพื่อความสะดวกของชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาทำบุญที่วัด ว่าจ้างนายธงชัย (สงวนนามสกุล)ชาวตำบลเขาขาว อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการเปลี่ยนหลังคาโรงธรรม จากกระเบื้อง เป็นแผ่นเมทชีท สีใบมะขามแห้ง ขนาดความหนา 22 มิลลิเมตร พร้อมทั้งทาสีกันสนิมโครงหลังคาใหม่ทั้งหมดวงเงิน 170,000 บาท ในระยะเวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2565 โดยแบ่งจ่าย 2 งวด คือ 80,000 บาทและ 90,000 บาท โดยผู้รับเหมาเบิกจ่ายงวดแรกจำนวน 80,000 บาทไปแล้ว และครบกำหนดส่งมอบงานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันทางผู้รับเหมายังอาสาที่จะก่อสร้างหลังคาบุษบกเพื่อครอบเสาพระภูมิของวัดด้วยโดยตีราคา 35,000 บาทและมีการเบิกเงินไปแล้วจำนวน 25,000 บาท แต่ปรากฎว่าผู้รับเหมากลับทิ้งงาน ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวและทางวัดไม่มีเงินที่จะต่อเติมต่อไป
โดยนายมนัส หมวดเมือง ( คนเสื้อลายไม่สวมแมส) กรรมการวัด บอกว่า จุดการก่อสร้าง หลังคาบุษบก ครอบเสาพระภูมิวัด ซึ่งเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา มีการริเริ่มก่อสร้างวัด แต่ชาวบ้านและประชาชนในชุมชนได้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อที่จะสร้างหลังคาบุษบก เพื่อที่จะครอบศาลพระภูมิวัดเอาไว้เพื่อไว้กันแดดกันฝนป้องกันความเสียหาย เพื่อรักษาเสาพระภูมิวัด ได้คงอยู่คู่กับวัดไปชราวลูกชั่วหลานต่อไป แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมารายดังกล่าวกลับทิ้งงานทั้งสองโครงการ และจากการตรวจสอบข้อมูลกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ภูมิลำเนาของนายธงชัยผู้รับเหมารายดังกล่าว ทราบว่านายธงชัยมีนิสัยแบบนี้คือ มักของานเข้าไปรับเหมาปรับปรุงซ่อมแซมอาคารต่างๆภายในวัดมาหลายแห่งแล้วและมีการทิ้งงานมาหลายแห่ง ซึ่งส่วนตัวมองว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายให้วัดและประชาชนเป็นอย่างมากโดยประชาชนร่วมกันบริจาคเงินมาคนละเล็กคนละน้อย เพื่อที่จะร่วมกันบูรณะหรือซ่อมแซมสิ่งต่างๆภายในวัดให้ใช้งานได้ แต่กลับถูกผู้รับเหมามาหลอกลวงและทิ้งงาน
ซึ่งวัดเขาจำปา เป็นวัดเล็กๆเท่านั้น ไม่มีเงิน เงินที่ได้มาก็เป็นเงินที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคหวังที่จะร่วมกันทำนุบำรุงศาสนาให้วัดได้อยู่ใกล้บ้านเพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าวัดทำบุญ แต่ผู้รับเหมากลับทิ้งงาน สภาพบุษบกก็ยังค้างคาอย่างที่อื่น เดิมตอนนับงานเหมาโรงธรรม ช่างบอกจะทำบุษบกให้ก่อน จะไม่เอาเงิน ทางกรรมการวัดและชาวบ้านเห็นมีความตั้งใจ จึงยอมให้ทำ แต่พอทำจริงกลับขอเบิกเงินก่อนเลย และทิ้งงานทั้ง 2 โครงการ ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รับโทรศัพท์ ไม่อ่านไลน์
ทางด้านนายสุวัฒน์ นาทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 และเป็นกรรมการวัด กล่าวว่า ทางวัดจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เงินมาประมาณ 300,000 บาท โดยชาวบ้านตั้งใจว่าจะสร้างโรงครัวของวัดให้เสร็จ แต่พอดีพบว่ากระเบื้องของโรงธรรมนั้นแตกร้าว แก้ปัญหาไม่จบ กรรมการจึงปรึกษากันว่าเปลี่ยนเป็นแผ่นเมทัลชีทเพราะเบาและทนต่อแรงลม จึงแบ่งเงินที่ได้จากการทอดผ้าป่านำไปปรับปรุงหลังคาและทาสีใหม่โรงธรรม และสร้างทำหลังคาบุษบก หยุดการปรับปรุงโรงครัวไว้ก่อน แต่พอมาเจอผู้รับเหมาแบบนี้ทำให้แย่เลย ตอนนี้เงินที่มีอยู่ก็ไม่พอจะจ้างช่างคนใหม่มาทำ ซึ่งหากจ้างช่างคนใหม่มาทำตีราคากว่า 200,000 บาท เงินก็ไม่พอ จะสร้างโรงครัวให้เสร็จก็ไม่มีเงิน จึงแย่มาก ถ้านายธงชัย ช่างผู้รับเหมาฟังอยู่อยากจะบอกว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาก็เป็นเงินบริจาคที่ชาวบ้าน ร่วมกันทำบุญมาคนละเล็กคนละน้อย แต่พอมาเจอช่างแบบนี้ก็ขอให้ช่างสำนึก หากฟังอยู่ก็ขอให้เข้ามาคุยหรือทำต่อให้เสร็จ เพราะทางวัดก็ไม่อยากจะไปแจ้งความเอาเรื่อง เพราะต้องการอยากจะให้วัดเสร็จ แต่หากไม่เข้ามาคุยก็จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีในก็หาฉ้อโกง เพราะตอนนี้ก็เข้าฤดูฝนด้วยหลังคาโรงธรรมซึ่งสร้างไม่เสร็จฝนก็รั่วเดี๋ยวอาจจะมีภาพที่พระต้องลำบากทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดน้ำฝนออกไปจะเป็นภาพที่ดูไม่ดี และขอให้นึกถึงด้วยว่าตอนที่มาคุยเพื่อของานในตอนต้นนั้นคุยกันไว้ว่าอย่างไร และสภาพงานที่ออกมาเป็นอย่างไร โดยงานที่ทำไปนั้นในส่วนของศาลาโรงธรรมได้เพียงประมาณ 20% เท่านั้น โดยผู้รับเหมาเบิกเงินไปทั้งหมด 80,000 บาทซื้อแผ่นเมทัลชีทได้เพียง 50 แผ่นเท่านั้น ที่เหลือก็ทิ้งร้างเอาไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภายในศาลาโรงธรรมพบว่าบริเวณหลังคา มีช่องว่างเว้นอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งหากฝนตกลงมาน้ำฝนลงมาสู่พื้นด้านล่างทำให้ทางพระในวัดซึ่งมีอยู่ประมาณสามรูปต้นนำกะละมังหรือนำถังมาลองรับน้ำวางไว้บนพื้นศาลา ซึ่งสภาพนั้นน่าสงสารประชาชนโดยขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝนประชาชนก็ไม่อยากเข้าวัด เพราะเมื่อเข้ามาเกิดฝนตกก็ไม่มีที่นั่ง พระก็ลำบากเช่นเดียวกัน ต้องหาภาชนะมารองรับน้ำฝนซึ่งเป็นภาพที่ชาวบ้านเห็นแล้วเสียความรู้สึก อย่างมากจึงอยากให้ช่างเข้ามาแก้ไขแล้วทำต่อให้เสร็จแต่หากไม่มาก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: