นครศรีธรรมราช : เครือข่ายภาคประชาชนนครศรีธรรมราช-พัทลุง ตำหนิหนัก สถาบันการศึกษาถือเป็นครอบครัวที่ 2 ของนักเรียน แต่กลับเป็นสถานที่สร้างปัญหาให้ จนต้องตัดสินใจคิดสั้นฆ่าตัวตาย ร้องกระทรวงศึกษาธิการ ต้องตระหนักและรับผิดชอบ
วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ความคืบหน้า กรณีน้องโบนัส อายุ 14 ปี นักเรียน ร.ร.ชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการผูกคอตาย หลังเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจครูที่ปรึกษาแจ้งหมดสิทธิ์ที่จะเรียนต่อ จนตัวเด็กเกิดภาวะความเครียดก่อนคิดสั้นฆ่าตัวตาย ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการกระทำดังกล่าวของครูและทาง ร.ร.
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายสมชาย รองเหลือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาพัทลุง แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ จึงไม่สามารถติดต่อได้ แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ แจ้งว่าบ่ายวันนี้ นายสมชาย จะเดินทางเข้าไปยัง ร.ร. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ขณะที่เพื่อนรุ่นน้องของผู้เสียชีวิต เปิดเผยถึงสาเหตุการคิดสั้นฆ่าตัวตายครั้งนี้ มาจากปัญหาความเครียดและเหนื่อยที่โดนไล่ออก ซึ่งมีครูใช้คำพูดขู่กดดัน โดยเพื่อนรุ่นน้องบอกว่า “วันที่ 9 ร.ร.เปิด แต่เปิดเฉพาะ ม.1,2 และ ม.4 วันนั้นพี่โบนัสจะต้องเตรียมตัวกลับมาพัทลุง แต่ติดขบวนเสด็จ ไม่มีใครสามารถไปส่งที่สถานีขนส่งได้ วันต่อมา ครูก็โทรมาถามว่าทำไมถึงไม่มา ร.ร. พี่แกก็บอกเหตุผลไปว่า ครูก็ขู่และใช้คำรุนแรงตามที่เห็นในทวิตเลยค่ะ ทั้งไล่ออก เป็นภาระให้ครูที่ปรึกษา หมดสิทธิ์ที่จะกลับไปเรียนสตรี หลังจากที่หนูได้คุยกับพี่แกวันนั้น พี่แกก็หายไปเลยค่ะ จนทางญาติโพสต์ว่าเสียแล้ว”
“ไม่มีเงินไม่มีผู้ปกครอง ให้เลิกความคิดที่จะกลับมาหาเพื่อน มาเรียนที่นี่”
“มันจุกในอกนะคะ ปกติเราจะคุย และปรึกษากับบ่อยมาก เราจะช่วยเหลือกันตลอด พี่โบนัสมีภาวะโรคซึมเศร้าด้วย เราจะช่วยเหลือกันเสมอ” เพื่อนรุ่นน้องของผู้เสียชีวิตกล่าว
ด้านผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกหดหู่ใจมาก น้องเป็นเพื่อนกับลูกในชั้นเรียนเดียวกัน เพื่อน ๆ ในห้องจะช่วยเหลือกันตลอด มีแต่คุณครูไม่ช่วยเหลือ ไม่เข้าใจจริง ๆ หดหู่ใจมากทำไมเด็กคนนึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งที่บ้านทั้งครู เมื่อที่บ้านเด็กมีปัญหา ครูควรที่จะเข้าใจและช่วยเหลือเด็กนักเรียนสิ ไม่ใช่มาผลักไสไล่ส่ง ความเป็นครูจรรยาบรรณหายไปไหนหมด
หนูหมดเวรหมดกรรมแล้วลูก ชาติหน้าขอให้หนูได้เจอแม่ที่ดี ครูบาอาจารย์ที่ดีนะคะ ไปเป็นนางฟ้านะลูก น้องโบนัส น้องฌาปนกิจแล้วเมื่อวานนี้ ที่วัดต้นพยอม ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
น้องมีปัญหาครอบครัว เพราะแม่ติดการพนันและไม่สนใจน้อง และครูที่น้องเคารพกลับบอกว่าน้องหมดสิทธิ์และให้ออกจาก ร.ร. เหมือนตอกย้ำปัญหาน้อง ทำให้น้องตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ตอนนี้ ร.ร.กำลังพยายามปิดข่าวอยู่
ขณะที่ นายปรีชากร โมลิกา เครือข่ายภาคประชาชนนครศรีธรรมราช-พัทลุง กล่าวว่า โลกนี้ช่างโหดร้ายมาก โรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สองของเด็ก เด็กเข้าเรียนชั้น ม.1 ตั้งแต่ปี 2563 แล้วนี่ปี 2565 โรงเรียนไม่ทราบประวัติของเด็กเลยหรือ โรงเรียนออกใหญ่โต เลือกเฉพาะลูกท่านหลานเธอหรืออย่างไร แสดงว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม ผู้บริหารอยู่อย่างไร ไม่รับรู้เลยหรือศิษย์เก่าโรงเรียนมีมากมาย เป็นใหญ่เป็นโต กับการเอ่ยปากบอก ทำไมศิษย์เก่าจะไม่ช่วยหาทุนให้กับเด็ก หากเด็กไม่มีทางออกจริง ๆ พ่อแม่ก็ต้องว่ากันไป ที่พึ่งสุดท้ายของเด็กคือโรงเรียน
“ผมขอเรียกร้องให้สมาคมศิษย์เก่า หรือชมรมผู้ปกครอง หรือกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น อย่าอุบอิบ อย่ากลัวว่าจะเสียชื่อเสียง วันนี้ การกระทำของคุณทำให้เด็กคนหนึ่งเสียชีวิต คุณต้องกล้าออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น หยุดทำร้ายเด็กได้แล้ว ค่าเทอม จะกี่ล้าน กี่แสน งบประมาณที่ภาครัฐช่วยเหลือเด็กมีเยอะแยะ เด็กรู้ว่าตัวเองอยู่ในครอบครัวที่แตกแยก ยังหางานทำเพื่อส่งเสียให้ตัวเองได้เรียนหนังสือจนถึงเวลานี้กี่ปี เด็กสอบเข้าเรียนใน ร.ร.ชื่อดังได้ ก็ไม่ธรรมดา ทำไมเราไม่ส่งเสริมเด็กให้เรียนต่อ ไม่แน่เด็กคนนี้อาจได้เป็นใหญ่เป็นโตใน อนาคตได้ โรงเรียนมาตัดอนาคตเด็กจริงๆ” นายปรีชากร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในเพจดังกล่าว ยังมีผู้มาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะตำหนิการกระทำดังกล่าวของครู พร้อมกับผู้บริหาร ร.ร. ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือ ผู้ปกครอง ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับสถาบันการศึกษาที่เกิดเหตุร้ายขึ้นกับเด็ก มองว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: