“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ควงผู้สมัคร ส.ก. พรรคไทยสร้างไทย “กำนัน มนัส” ขอคะแนนชาวลาดกระบัง แม่ค้าแห่เชียร์ตลาดแตก เจ้าตัว ระบุ คนตัวเล็กค้าขายลำบาก เจ้าหน้าที่เน้นกำกับควบคุม มากกว่าการส่งเสริม ชูนโยบาย ผู้ว่าศิธา ดูแลคนตัวเล็ก เพิ่มโซนส่งเสริมการขาย 24 ชั่วโมง
วันนี้ (18 พฤษภาคม 2565) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทีมไทยสร้างไทย พร้อมนายมนัส บัวทอง ผู้สมัคร ส.ก.หมายเลข 5 เขตลาดกระบังพรรคไทยบ้างไทย ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง พบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายในตลาดย่านพื้นที่ลาดกระบัง ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พี่น้องประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจำนวนมาก พี่น้องพ่อค้าแม่ขาย ตื่นเต้นที่ทราบว่านายรัฐภูมิ เดินทางมาช่วยผู้สมัคร ส.ก.ทีมคุณหญิงสุดารัตน์หาเสียง
โดยผู้ค้า นอกจากจะกล่าวชื่นชม การทำงานของคุณหญิงสุดารัตน์แล้ว ระบุว่าวันนี้ดีใจมากที่ได้เห็นศิลปินดารา มาลงพื้นที่ด้วยตนเอง ทำให้บรรยากาศภายในตลาดเป็นไปด้วยความคึกคัก ขณะเดียวกันยังได้เห็นภาพการรุมล้อม เข้ามาพูดคุย เข้ามาสวมกอดอย่างใกล้ชิด ตลอดการเดินหาเสียงเพื่อขอคะแนนสนับสนุน ให้ น.ต.ศิธา ทิวารีหมายเลข 11 และ กำนันมนัส บัวทอง ผู้สมัครส.ก.หมายเลข 5 พรรคไทยสร้างไทย
นายรัฐภูมิ เปิดเผยว่า ลงพื้นที่เขตลาดกระบังหลายครั้ง พี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายสะท้อนในทิศทางเดียวกันว่า การค้าขายเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับพื้นที่ในการจอดรถ สำหรับการเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าของกินของใช้ มีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะล่าสุดพบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำ สีขาวแดง มาทาริมถนน ทำให้พี่น้องประชาชนไม่กล้าจอดรถซื้อของ จึงกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นการทำงาน ที่เน้นการกำกับควบคุม เน้นบังคับใช้กฎหมายมากกว่าการสร้างความเข้าใจร่วมกัน
สำหรับปัญหาดังกล่าว นายรัฐภูมิ มั่นใจว่า สามารถแก้ไขได้ เพียงแค่หาจุดเหมาะสม ไม่กระทบกับผู้ค้า รวมถึงผู้ใช้เส้นทางสัญจร นอกจากนี้นายรัฐภูมิ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ทีมผู้ว่าไทยสร้างไทย มีนโยบาย ในการดูแลคนตัวเล็ก เช่นการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้พ่อค้าแม่ค้า ได้ค้าขายกันอย่างเต็มที่ ตลอด 7 วัน รวมทั้งจัดโซนส่งเสริมการค้าขายตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการหรือพี่น้องเข้ามาจับจ่ายเป็นจำนวนมาก เช่นพื้นที่ ลาดกระบังแห่งนี้ เป็นต้น โดยจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ขณะเดียวกันจะมีการส่งเสริมการค้าขายออนไลน์เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการขยายรายได้ ขยายกันทำมาหากิน เพื่อให้เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ฟื้นกลับมาแข็งแกร่งโดยเร็ว
