นครพนม ตำรวจเร่งแกะรอย นางสาวเนย สุดแสบ แค้นอดีตแฟนหนุ่ม ไปคบหาสาวอื่น ใช้วิธีป่วนหลอกสั่งไรเดอร์ส่งอาหารให้แฟนสาวคนใหม่ หวังเสียเงินค่าอาหาร สุดท้าย สาวไรเดอร์ เมียตำรวจดีกรีรอง ผกก. พร้อมทีมงาน เจอหลอกสั่งเมนู แต่ปลายทางไม่มีคนรับ รอเอกสารยืนยันตัวตนเบอร์มือถือ ก่อนออกหมายเรียกมาสอบสวนดำเนินคดี พิจารณาเอาผิดทั้งแพ่ง และอาญา
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีมีผู้เสียหาย ทำงานเป็นไรเดอร์ บริษัทเอกชนชื่อดัง ไลน์แมน นำโดยนางจริยา ก้อนอินทร์ อายุ 55 ปี ภรรยานายตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่ง รองผู้กำกับหัวหน้าสถานี นายหนึ่ง ซึ่งทำอาชีพเสริมเป็นพนักงานไลน์แมน พร้อมด้วย นายนาวิน เสนาศรี อายุ 31 ปี นายกาญจนวัฒน์ เพ็งชัย อายุ 28 ปี ตัวแทนสหภาพไลน์แมน และ น.ส.ศุภักษร ไชยศีรษะ หรือกุ้ง อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย ถูกกล่าวหาอ้างเป็นคนสั่งเมนูอาหาร นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความ กับ ร.ต.ท.สัจจนันท์ บางทราย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างสั่งอาหารทางไรเดอร์ โดยการ แอบอ้างเอาโปรไฟล์ผู้อื่นไปหลอก สั่งในแอพพลิเคชั่นไลน์แมน จนได้รับความเสียหาย ต้องชำระเงินเอง เพราะไม่มีลูกค้ามารับตามที่สั่ง ต้องสูญเงินรวมนับ 3,000 บาท พร้อมมอบหมายให้ตำรวจ สืบสวนขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาหลอกลวงและทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม มอบหมายให้ ร.ต.ท.สัจจนันท์ บางทราย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมสอบสวน ผู้เสียหายเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบหาหลักฐานยืนยันตัวตน ตามหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ของ นางสาว เนย ผู้ต้องสงสัย ที่ก่อเหตุ สั่งเมนูอาหาร ทางแอพพลิเคชั่นไลน์แมน แต่ใช้ชื่อคนอื่น ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของ อดีตแฟนหนุ่มที่เคยคบหากัน เชื่อว่าทำไปเพราะต้องการสร้างความปั่นป่วน ล้างแค้น อดีตแฟนหนุ่ม ที่ไปคบหา นางสาวกุ้งแฟนใหม่ โดยใช้พนักงานไรเดอร์ ไลน์แมน เป็นเครื่องมือ ทั้งนี้หลังจากตำรวจสามารถยืนยันตัวบุคคลต้องสงสัย จะมีการออกหมายเรียก มาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาความผิด ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา ซึ่งหลังมีการนำเสนอข่าว ทาง นางสาวเนย ผู้ต้องสงสัย ในคดีหลอกสั่งเมนูอาหาร ยังไม่มีการติดต่อมาหาผู้เสียหาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยคดีนี้หากมีการพิจารณาไม่เข้าข่ายความผิดทางอาญา จะต้องมีการฟ้องร้องชดใช้ทางแพ่ง ส่วนผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ยังยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่ให้มีการก่อเหตุซ้ำอีก
