กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร เผย เร่งสร้างระบบรองรับน้ำในพื้นที่ท่วมซ้ำซาก
วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตบางเขน
โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร กรมทางหลวง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ณ บริเวณอนุสาวรีย์หลักสี่ (วงเวียนบางเขน) เขตบางเขน
สำนักการระบายน้ำ กทม. รายงานว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก เมื่อคืนวันที่ 17 พ.ค.65 ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันที่ 18 พ.ค. ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยมีปริมาณฝนตกสะสมสูงสุด 136 มม. ในพื้นที่เขตดุสิต สำหรับเขตบางเขน ปริมาณฝนตกสะสม 113 มม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในตรอก ซอย หมู่บ้าน หรือชุมชนต่าง ๆ จำนวน 15 จุด
สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตได้แก้ไขปัญหา โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมและเร่งระบายน้ำลงคลองรางแก้ว-รางอ้อ และคลองใกล้เคียง พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งน้ำแห้งเป็นปกติ
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะถัดไป สำนักการระบายน้ำอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองรางอ้อ-รางแก้ว ผลงานขณะนี้ 99 % คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.65 และโครงการก่อสร้างแก้มลิงวงเวียนบางเขน สามารถกักเก็บน้ำได้ 6,000 ลบ.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดหาผู้รับจ้าง
ขณะเดียวกัน เขตบางเขนได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 นิ้ว 4 เครื่อง จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตั้งแล้ว 2 จุด ณ บ่อสูบน้ำบริเวณวงเวียนบางเขน และบ่อสูบน้ำบริเวณคลองบางบัวเชื่อมต่อคลองลาดพร้าว ส่วนอีก 2 เครื่อง กำหนดติดตั้งบริเวณคลองรางอ้อ-รางแก้ว เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนที่อาจตกหนัก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์ตลอด และกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาการระบายน้ำ ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ เน้นการเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำ และแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในทันที
โดยมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบ และประสานงานร่วมกับ สำนักการระบายน้ำ กทม. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเน้นย้ำให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการระบายน้ำให้ทันกับสถานการณ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมแผนรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนนี้ โดยขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ทั้งแผนหลัก แผนสำรอง เพื่อรองรับและแก้ปัญหาในอนาคตด้วย เช่น การพร่องน้ำในคูคลอง โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำให้สมบูรณ์ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: