สงขลา-สะเดา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ด่านตรวจถาวรควนมีด สนธิกำลัง จับยาไอซ์ 390 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 80 ล้านบาท หลังพบซุกซ่อน ในรถกระบะบรรทุกแตงกวา ปลายทางเพื่อส่งให้กับลูกค้า ที่จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งยึดรถกระบะนำทางอีก 1 คัน พบผู้เกี่ยวข้องรวม 3 คน
10 มิ.ย. 65 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา เป็นประธานแถลงข่าว โดยร่วมกับ ว่าที่ พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอจะนะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอจะนะที่ 9 ร่วมกับตำรวจ สภ.ควนมีด และ สภ.จะนะ
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา เดชอิศม์ "ลุย"สงขลา ชูเมืองสุขภาพดี อำเภอ น้ำประปาสะอาด ทม.สะเดาติด 1 ใน 4
- สงขลา ตะเกียงเจ้าพายุเก่า มรดกแห่งเเสงสว่างและเรื่องราว จากอดีตสู่ปัจจุบัน
- ชาวกันตัง ไม่ทน! จ่อแจ้ง 157 หากตรวจรับงานมิชอบ โครงการปรับภูมิทัศน์ริมท่าน้ำกันตัง-เกาะเนรมิต 73.7 ล้าน…
- Chef’s Tableรุ่นใหม่คัดวัตถุดิบท้องถิ่นปักษ์ใต้ชั้นเลิศสู่โต๊ะอาหาร เสิร์ฟเมนูหรูไฟน์ไดนิ่ง
สนธิกำลังจับกุมตัว นายสมพงษ์ อรุณ หรือ พงษ์ อายุ 50 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม พร้อมรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว ตอนเดียวสีขาว ทะเบียน 3ฒข 1976 กรุงเทพมหานคร ได้คาด่านตรวจถาวรควนมีด บ.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา หลังซุกซ่อนยาไอซ์ทั้งหมด 10 กระสอบ น้ำหนัก 390 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 78 ล้านบาทปะปนมากับ เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และรถกระบะอีซูซุ สีทอง ทะเบียน บพ-6055 เพชรบุรี ซึ่งถูกจอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ ครึ่งกิโลเมตร
เบื้องต้นในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดไปยังพื้นที่ 3 จังหวัด โดยใช้เส้นทางผ่านด่านควนมีด ในช่วงเวลา 04.00 น. ถึง 06.00 น. โดยปะปนมากับสินค้าการเกษตร ซึ่งใช้รถบรรทุกผัก เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หลังจากได้รับแจ้ง จึงได้เรียกประชุมชุดปฏิบัติการ โดยแบ่งหน้าที่กันอย่างรัดกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่าการขนยาเสพติดครั้งนี้ ขนมาจากพื้นที่ราชบุรี เป็นตลาดขายสินค้าการเกษตร เขาขับรถมาพักที่เกสเฮ้าส์แห่งหนึ่ง แถวท่าท้อน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และก็มีคนดูแลทั้งเรื่องอาหาร ที่นอน หลังจากนั้นก็รอเวลาออกจากที่พัก ในเวลา 04.00 น. ถึง 06.00 น. ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจที่ไม่เข้มงวด เนื่องจากเป็นเวลาเช้าตรู่ เจ้าหน้าที่อาจจะมีการเหนื่อยล้าของร่างกาย เพราะเขารับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยขนยาไอซ์ ผ่านด่านฯแห่งนี้ ช่วงเวลานี้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งได้ค่าจ้าง 30,000 บาท ต่อครั้ง
โดยจากคำให้การของผู้ต้องหาบอกว่า ล็อตนี้มีจำนวนยาเสพติดทั้งหมด 10 กระสอบ ประมาณ 390 กิโลกรัม ส่วนรายละเอียดต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งในการลำเลียงยาเสพติด มีรถนำทางมา 1 คัน เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 605 ขณะจะผ่านด่านฯ เวลา 04.55 น. เจ้าหน้าที่ได้เรียกรถเข้ามาตรวจ คนขับรถคันดังกล่าวเขามีกริยาท่าทางโวยวาย เพราะเขาบอกว่าจะรีบไปรับแฟน ใช้เล่ห์หลอกเจ้าหน้าที่
ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นรถนำทาง (รถคันแรก) ผ่านไปประมาณ 2 นาที รถคันเป้าหมายก็ขับเข้ามา เจ้าหน้าที่ก็โบกให้รถเข้ามาจอด และเล็งเป้าหมายไปยังคันที่ 2 ส่วนคันที่ 1 พอเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไปตรวจรถคันที่ 2 ก็เลยขับออกไปรอบริเวณปั๊มน้ำมัน
บังเอิญว่ารถคันที่บรรทุกสินค้าการเกษตร ติดจีพีเอส พอเกินเวลาที่เขากำหนดไว้ รถคันแรกที่ไปรอปั๊ม ปตท.ก็ไหวตัวทัน คนขับเลยทิ้งรถและให้รถในเครือข่ายมารับออกไป ซึ่งรถคันที่มารับคนนำทางคันแรกไป ตอนนี้ยังหาไม่เจอ แต่พอจะทราบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีเทาดำ
นอกจากนี้ ยังพบผู้เกี่ยวข้องอีก 2 คน คือ น.ส.มาตา อรุณ ลูกสาวของนายสมพงษ์ เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินการซื้อขายยาไอซ์ และนายจักร เท้งศิริ หรือเบิร์ด อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย ของนายสมพงษ์ ที่เป็นคนสั่งการในการรับส่งยาไอซ์ ซึ่งแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ คาดว่ายาไอซ์ล็อตนี้ น่าจะถูกลักลอบส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศที่ 3 อีกด้วย ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมหาศาล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสมพงษ์ ฯ ร่วมกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) (มีไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยจะติดตามผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: