ชัยภูมิ – ระหว่างขี่ จยย.ขากลับบ้าน เกิดอุบัติเหตุชนรถเก๋งร่างไปติดใต้ท้องรถดับคาที่!
เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 13 มิ.ย.65 ร.ต.ท.นนทพัทธ์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ( จยย.) ชนกับรถยนต์เก๋ง มีผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านอาหารชุมชนคลองลี่ เส้นทางบ้านคลองลี่เส้นทางมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านโสกตลับ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และ หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สวมเสื้อสีเขียว กางเกงขายาว ทราบต่อมาชื่อ เป็นเด็กอายุ 18 ปี ชาวตำบลโคกสูง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ร่างติดอยู่ใต้ท้องรถยนต์เก๋ง สภาพด้านข้างพังยับเยิน กระจกฝั่งคนขับแตกกระจาย ใกล้กันยังพบรถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อัดติดอยู่ท้ายรถเก๋ง สภาพแหลกพังยับเยิน
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ พบปะนักเรียนจากทั่วอีสาน ชูโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" เพิ่มโอกาสชีวิต
- พะเยา หนุ่มจ่ายบิลไฟฟ้าหัวร้อนกระบองเหล็กเขวี้ยงสุนัขถูกกระจกบ้านเสียหายขับรถ จยย หลบหนี
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
สอบถามไปยังคนขับรถยนต์เก๋ง อายุ 23 ปี ชาวอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาชะลอเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าซอยที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นตนมองแล้วว่ารถด้านหน้าไม่มีตนจึงทำการเลี้ยวรถ แต่รถจักรยานยนต์ที่ขับตามหลังมาขับชนรถตนอย่างจัง กระทั่งร่างคนขับ จยย.มุดเข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่ตนจะลงมาดูและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยตรวจสอบ
ด้านแม่ของน้อง วัย 18 ปี ผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุอยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ปล่อยโฮแทบขาดใจบริเวณจุดเกิดเหตุ และเล่าทั้งน้ำตาว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกชายของตนได้ขับรถ จยย.ออกจากบ้านเพื่อที่จะมาส่งน้องไปโรงเรียน(ร.ร.) ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นขากลับหลังจากที่ส่งน้องที่ ร.ร.เสร็จแล้ว ลูกชายที่ผู้เสียชีวิตน่าจะกำลังขับรถกลับบ้านก่อนมาเกิดอุบัติเหตุชนกันดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.นนทพัทธ์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามข้อมูลพยานแวดล้อม และ จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุในครั้งนี้ที่ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถยนต์เก๋งมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป และส่วนศพน้องชาย วัย 18 ปี ทางญาติขอรับไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ซึ่งทาง จนท.ตร.อยากฝากเตือนประชาชนซึ่งสังเกตได้ว่าการเกิดอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตทุกครั้ง จากการขับขี่ รถ จยย.ผู้เสียชีวิต ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อคมักเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุแทบทุกราย กว่าคนที่สวมใส่หมวกนิรภัยป้องกันศีรษะ และอยากให้คนที่ขับขี่รถทุกประเภทให้ความสำคัญตระหนักใส่ใจและเป็นอุทาหรณ์เตือนใจในการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันในการขับขี่รถทุกประเภทตามระเบียบกฏหมายให้มากขึ้นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: