ชาวบ้านหวาดผวาเดนคุกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ 12 วัน 4 ครั้ง อึ้งเคยจำคุกมา 10 ครั้ง ตำรวจสืบสวนจังหวัดตรังมาหาถึงหน้าบ้าน รีบเผ่นหนีขึ้นหลังคา ก่อนพลาดท่ากระเบื้องแตก ร่วงกระแทกพื้น สุดท้ายยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่และรับสารภาพแต่โดยดี พลิกแฟ้มประวัติอึ้งเคยถูกจำคุกคดีวิ่งราวทรัพย์และยาเสพติดมากว่า 10 ครั้ง ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาได้แค่ 1 ปีก่อนมาก่อเหตุต่อเนื่อง
วิ่งราวทรัพย์ : วันนี้ 14 มิ.ย. 65 พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้ พ.ต.ท.จรัญ โอนิกะ สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง นำกำลังตำรวจชุดกองกำกับการสืบสวนภูธร จ.ตรัง กว่า 10 นาย เฝ้าติดตามตัวผู้ต้องหาคือนายอนุรักษ์ กะกา หรือก้า อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/101 ถ.จริงจิตร ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังสืบทราบว่าก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมืองตรัง จำนวน 4 คดี จนกระทั่งพบนายอนุรักษ์ ขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุเข้ามาที่บ้านพัก จึงได้เข้าแสดงตัวแต่ปรากฏว่านายอนุรักษ์ ตกใจและวิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน ก่อนจะวิ่งปืนบนหลังคาของชาวบ้าน ชนหลังคาของชาวบ้านแตก และนายอนุรักษ์ได้ตกลงมาจากหลังคา ผ่านฝ้าเพดาน กระแทกพื้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่จึงได้เรียกให้นายอนุรักษ์ เปิดประตูและสอบถามว่าหลบหนีทำไม ก่อนที่นายอนุรักษ์จะรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที ว่าไม่รู้ตำรวจมาทำไม แต่ตนเองเป็นบุคคลที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มา จึงคิดว่าตำรวจคงจะมาจับกุม เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิ่งหลบหนี และได้เก็บเสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ ไว้ภายในบ้าน รวมทั้งรถที่ใช้ในการก่อเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบภายในห้องนอนของนายอนุรักษ์ พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 1 ถุง ประมาณ 200 เม็ด และนายอนุรักษ์ ฯ ได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ที่ได้จากการก่อเหตุ ที่บ้านของแฟนแฟนของนายอนุรักษ์ พื้นที่ หมู่ 2 ต.บางเป้า อ.กันตัง ด้วยความสมัครใจก่อนจะนำตัวมาให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำแผลที่บาดเจ็บจากการพลาดตกจากหลังคาบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต และแจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการหลบหนี
จากการสืบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาใช้รถ จยย.จำนวน 3 คันใช้ในการก่อเหตุโดยรถทั้งหมดเป็นรถที่ยืมของเพื่อนและคนสนิทมาทั้งสิ้น โดยลงมือก่อเหตุวิ่งราว 4 ครั้ง ห้วงเวลาภายใน 12 วัน โดยวันที่ 27 พ.ค.65 ได้ทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอ 2 สลึง วันที่ 31 พ.ค.65ได้ทรัพย์สิน กระเป่า เงินสด 2,200 บาท โทรศัพท์เรียวมี 1 เครื่อง วันที่ 5 มิ.ย.65 ได้ทรัพย์สิน เงินสด 130 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และวันที่ 7 มิ.ย.65 ได้ทรัพย์สิน เงินสด 800 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยเหตุเกิดบริเวณถนนรักจันทน์ หน้าวัดโคกหล่อ และหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กควนปริง ก่อนที่ทางตำรวจจะ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งข้อมูลกล้องวงจรปิดจนทราบลักษณะการแต่งกายตำหนิรูปพรรณคนร้าย และติดตามจนทราบตัวและจับกุมได้ในที่สุด
จากการพลิกตรวจสอบแฟ้มประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำในคดีวิ่งราวทรัพย์และยาเสพติดมาเมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 และผู้ต้องหารายนี้ เคยถูกต้องโทษจำคุกจนพ้นโทษในคดีอาญามาแล้วกว่า 10 คดี ตั้งแต่ปี 2553 ครั้นยังเป็นเยาวชน ในคดีเกี่ยวกับวิ่งราวทรัพย์และยาเสพติด จนมาก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ น.ส.ประภานิช ฤทธิ์ท้วม อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกวิ่งราวทรัพย์ บอกว่า วันเกิดเหตุขับรถ จยย.มาจากบ้านเพื่อน กำลังจะขับรถกลับบ้านเมื่อมาถึงสี่แยกต้นสมอ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขับกลับบ้านเป็นประจำ คนร้ายจึงขับรถมาประกบและเบียดรถต้น ก่อนจะมองหน้าแล้วหยิบกระเป๋าที่ตั้งอยู่ในตกล้ารถ มีทรัพย์สินอยู่ในนั้นขับหลบหนีไป ตนจึงขับรถตามระยะทางประมาณ 1 กม.แต่เกิดคลาดกันคนร้ายหลบหนีไปได้ รู้สึกตกใจมากแต่ตั้งสติได้จึงขับตามไป อยากฝากบอกคนอื่นๆว่า อย่าวางทรัพย์สินไว้ในตะกร้ารถ จยย. แต่โชคดีที่ในวันนี้ได้โทรศัพท์มือถือคืน เพราะผู้ก่อเหตุยังเก็บไว้.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: