ศาลจังหวัดศรีสะเกษตัดสินคดีปู่ฤาษีตาไฟข่มขืนสาว 17 ปี จำคุก 5 ปี ปรับ 60,000 บาท จำเลยรับสารภาพและยอมจ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหาย 150,000 บาท จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 30,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 3 ปี
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 นายแก้ว (นามสมมติ) อายุ 47 ปี และ นางสวยผู้เป็นภรรยา ได้พา นางสาวบี (นามสมติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร้อยตำรวจโทหญิง ศิรินทรา บุญธรรม รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ว่า นางสาวบี ถูก นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ คนพิการแขนขาอ่อนแรงลุกยืน เดินไม่ได้ อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นร่างทรงที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ข่มขืนกระทำชำเราภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งบนถนนสายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ ท้องที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม 2561
ต่อมาวันที่ 31 สิงหาคม 2561 นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุรสิทธิ์ว่า พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ
โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น โดยนายสุรสิทธิ์ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งตัวนาย สุรสิทธิ์ฝากขังต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษในวันเดียวกัน ญาติยื่นขอประกันตัว ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 200,000 บาท พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานจนครบถ้วนแล้วสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ กระทั่งพนักงานอัยการส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.56 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้ ว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง จึงตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี ปรับ 60,000 บาท ซึ่งการไต่สวนในชั้นศาล จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และจำเลยได้จ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหายเป็นเงิน 150,000 บาท จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 30,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 3 ปี โดยให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง
