ตรัง หนึ่งในสองผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีกรรโชกทรัพย์เสี่ยบ่อทรายบัวบก เข้าพบพนักงานสอบสวน อ้างยังบริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน
วันที่ 21 มิถุนายน 2565 เวลา 16.30 น ที่ สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมอบตัวนายจำลอง (นายบ่าว) นกศรีแก้ว ซึ่งเป็นลูกจ้างทำงานในบ่อทรายบัวบก หรือบริษัทบัวบก 111 จำกัด ตามหมายจับของศาลจังหวัดตรังที่ 213/2565 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ผู้ต้องหา นายจำลอง นกศรีแก้ว อยู่ที่ 112 หมู่ที่ 8 ต.วังมปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ข้อกล่าวหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
โดยนายจำลอง นกศรีแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เดินทางมากับเพื่อน 1 คน เพื่อเข้าไปพบกับ พ.ต.ต.รัฐกาญจน์ พรมราช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองตรัง โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหา ในระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวไปติดตามนำเสนอข่าวก็พบกับพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาตามหมายจับ และเพื่อนนายผู้ต้องหา ซึ่งทั้งผู้ต้องหาและเพื่อนก็ปฏิเสธไม่ยินยอมให้ผู้สื่อข่าวทำข่าวนำเสนอข่าวและบันทึกภาพ โดยเพื่อนนายจำลอง นกศรีแก้ว อ้างว่าผู้ต้องหายังบริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งว่าเพื่อนของผู้ต้องหาทำงานอยู่ที่ศาล
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่านายจำลอง นกศรีแก้ว เป็นคนวางแผน พานายวีรวัฒน์ คงสุทรู้ ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกไปจับกุมไปเมื่อเย็นวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ไปชี้เป้า ชี้จุดถ่ายรูป ร้านบัวบก หรือบริษัทบัวบก 111 จำกัด ที่ถนนห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง และที่บ้านพักนายชำนาญ ลีลาโกสิทธิ์ เถ้าแก่บ่อทรายบัวบก ที่บ้านพัก ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง และไปถ่ายภาพขณะนายชำนาญ เถ้าแก่บ่อทรายพาลูก ๆ ไปส่งโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยตำรวจมีพยานหลักฐานครบทั้งหมด ในการขอหมายจับจากศาลจังหวัดตรังจับกุมนายจำลอง ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้ เพราะเป็นคนงานในบ่อทราย รู้ความเคลื่อนไหวของเถ้าแก่และสถานะทางการเงินเป็นอย่างดี
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ตำรวจชุดสืบสวนจะทำการขยายผลการสืบสวนสอบสวนนายจำลอง นกศรีแก้ว ว่ายังมีผุ้ร่วมกระทำผิดอีกหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 212/2565 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ผู้ต้องหา นายเอกรัตน์ ศรีหมาน อยู่ที่ 102 หมู่ที่ 10 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ข้อกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กำลังหลบหนี
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2565 นายชำนาญ ลีลาโกสิทธิ์ เถ้าแก่บ่อทรายบัวบก เปิดประตูจะออกจากบ้านพัก ที่ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง พบซองจดหมายขนาดใหญ่สีน้ำตาล วางอยู่ที่ประตู จึงหยิบและเปิดดูพบเป็นจดหมายเรียกค่าคุ้มครอง ภาพถ่ายและกระสุนปืน 1 นัด ข่มขู่ จะทำร้ายบุคคลในครอบครัวนายชำนาญและทรัพย์สิน ถ้าหากไม่อยากให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายก็ให้จ่ายเงิน 1.5ล้านบาทมาให้โดยจะมีการนัดหมายในภายหลัง จนช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน 2565 คนร้ายก็นัดแนะนายชำนาญ ให้นำเงินสดไปให้คนร้ายตามที่คนร้ายต้องการ มีการนัดหมายที่หน้าสำนักสงฆ์ ถนนบายพาสที่ 419 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อวางเงินคนร้ายคือนายสันตินนท์ ศรีจันทร์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเอาถุงเงินที่วางไว้แล้วส่งต่อนายวีรวัฒน์ คงสุทรู้ ซึ่งขับรถยนต์เก๋งสีน้ำเงิน มารับเงินอีกทอดหนึ่ง หลังจากนั้นตำรวจซึ่งวางแผนไว้อย่างดีก็ขับรถยนต์ไล่ล่าคนร้ายจนสกัดรถคนร้ายและจับกุมนายวีรวัฒน์ พร้อมถุงเงินสดได้ในที่สุด ตรงถนนสายบ้านโพธิ์-นาตาล่วง (หลังแขวง) ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง
หลังจากนั้นก็นำคนร้ายไปชี้จุดและไปเอาทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดคือ รถยนต์กระบะ 2 คันที่ขับมาถ่ายภาพบ้านผู้เสียหายและวันที่นำจดหมายมาส่งหน้าบ้าน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกสั่นไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน 1 กระบอกพร้อมกระสุนปืน 5 นัดที่ร้านคาราโอเกะ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และปืนอีก 1 กระบอกที่ ต.บางดี อ.ห้วยยอด อีก 1 กระบอกปืนพกสั้น บาเรตต้าขนาด 9 มมกระสุน 29นัด ตำรวจได้ฝากขังนายวีรวัฒน์ คงสุทรู้ และนายสันตินนท์ ศรีจันทร์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
นายชำนาญ ลีลาโกสิทธิ์ เถ้าแก่บ่อทราย กล่าวว่า อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีให้หมด และหากสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการกระทำความผิดอีกก็จับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทั้งหมด เพราะตนเกรงกลัวจะเป็นอันตรายกับคนที่ประกอบอาชีพสุจริตคนอื่นๆ ด้วย
