ทนายอนันต์ชัย ลั่น ฟ้องกลับทีมหมอปลาพร้อมทนายความ เหตุกล่าวหาพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมโกงค่าก่อสร้างวัดมรุกขนคร
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม นายอนันตชัย ไชยเดช นายเอิ้อ มูลสิงห์ ทนายประจำวัดพระธาตุพนม และพระครูโสภณภาวนานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีหมอปลา พาผู้ที่อ้างว่าได้รับความเสียหายร้องเรียนพระเทพวรมุนี ไม่จ่ายค่าก่อสร้างศาลาวัดมรุกขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้น โดยนายอนันตชัย เปิดเผยว่าวัดมรุกขนครได้รับใบอนุญาตให้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2539 แต่ผู้เสียหายอ้างเหตุเกิดราว ๆ ปี 2536 ดังนั้นในการทำสัญญาก่อสร้างต่าง ๆ จึงไม่ใช่หน้าที่ของพระเทพวรมุนี แต่เป็นการว่าจ้างระหว่างกรรมการวัดกับผู้รับเหมากันเอง และต่อมาพบว่างานก่อสร้างเกิดความล่าช้าจึงมีการเลิกจ้างผู้รับเหมาเดิมและหาผู้รับเหมารายใหม่มาสร้างแทน โดยทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของกรรมการวัดในขณะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพระเทพวรมุนี แต่อย่างใด อีกประการหนึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลานานแล้ว หากจะนับอายุความของคดีนี้จะมีอายุความ 2 ปี แต่นี่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมากว่ายี่สิบปีถึงจะมาร้อง และตนสืบทราบทางลึกมาว่าผู้ที่มาร้องมิได้เป็นทายาท หรือญาติของผู้รับเหมาแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ตนและทีงานเตรียมทำเรื่องฟ้องกลับทีมหมอปลาพร้อมทนายความอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่รอบคอบในการร้องเรียน มุ่งแต่จะร้องเรียนเพื่อจะทำลายพระพุทธศาสนาและชื่อเสียงของวัดมรุกขนครและวัดพระธาตุพนม ให้ได้เท่านั้น
ก่อนหน้านี้นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา ร่วมกับทนายไพศาล เรืองฤทธ์ พร้อมพวกทีอ้างว่าได้รับความเสียหาย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยได้กล่าวหาพระเทพวรมุนี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพระครูวิสาลสรกิจ ว่าเมื่อครั้งท่านทั้งสองดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร ได้มีการว่าจ้างผู้รับเหมาให้ก่อสร้างศาลาและแท็งค์น้ำ และต่อมามีการยกเลิกการก่อสร้าง และค้างค่าจ้างรับเหมางานก่อสร้างอยู่ประมาณ 1 ล้านเศษขอให้รัฐมนตรี ช่วยสืบสวนและติดตามหนี้ให้ด้วยตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
นายสมพงษ์ หมวดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม ได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สรุปได้ว่าวัดมรุกขนคร ได้รับการตั้งวัดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนมได้ลงพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของวัดซึ่งเป็นบุคคลเก่าแก่ในพื้นที่
แจ้งว่า ว่าวัดมรุกขนคร เดิมมีลักษณะเป็นเหมือนวัดร้าง เป็นที่รกทึบ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2534 พระสงฆ์และชาวบ้านในขณะนั้นช่วยกันพัฒนา สร้างเสนาสนะต่าง ๆ จนได้รับการตั้งวัดในปี พ.ศ. 2539 ซึ่งในการก่อสร้างทราบว่ามี ผู้มีจิตศรัทธาจากรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบก่อสร้างโดยมีคณะบุคคลจะนำเงินมาให้ผู้ก่อสร้างโดยตรงจนแล้วเสร็จปี 2540 ไม่ปรากฏสัญญาว่าจ้างใด เกี่ยวกับการสร้างถาวรวัตถุและหลักฐานการเบิกจ่ายในการก่อสร้าง และไม่อาจทราบได้ว่าญาติของผู้ร้องเรียนได้ทำสัญญาว่าจ้างในการก่อสร้างกับวัด หรือทำสัญญาว่าจ้างกับบุคคลใด เนื่องจากวัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 ซึ่งผู้ร้องเรียนแจ้งว่าได้ก่อสร้างถาวรวัตถุเมื่อปี พ.ศ.2536 ในช่วงที่ก่อสร้างสถานที่ก่อสร้างดังกล่าวยังไม่มีสถานะเป็นวัดแต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: