สงขลา – สะเดา กรมศุลกากรเปิดปฏิบัติการ “ยุทธการกำแพงพระนคร” (Narcoticsration Guardian) ระหว่างไทยกับมาเลเซีย เป็นครั้งแรก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมสร้างเครือข่ายประสานงานทั้งในและต่างประเทศ ในการปิดกั้นเส้นทาง ลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดน รวมทั้งจะขยายความร่วมมือไปยังชายแดนที่ติดกับประเทศลาว กัมพูชา และเมียนมา ตามลำดับ
วันที่ 24 มิ.ย. 65 ที่ห้องประชุมพระนิกรบดี ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทางกรมศุลกากร ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างประเทศ และเปิดปฏิบัติการ “ ยุทธการกำแพงพระนคร ” (Narcoticsration Guardian) ระหว่างไทยกับมาเลเชีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมสร้างเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ในการปิดกั้นเส้นทางการลักลอบขนยาเสพติด บริเวณแนวชายแดนไทย และประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข่าวน่าสนใจ:
- เชิญชม ต้นคริสต์มาสหมอกพันวาซอฟต์พาวเวอร์งานคราฟต์มาสเตอร์พีซหนึ่งเดียวในไทย “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024”
- สงขลา ตะเกียงเจ้าพายุเก่า มรดกแห่งเเสงสว่างและเรื่องราว จากอดีตสู่ปัจจุบัน
- นครพนม รับลมหนาว ที่ริมโขง สุดชิลล์ ล่องเรือท่องเที่ยวชมสองฝั่ง ไทย - ลาว สบายๆยามเย็น
- สงขลา เดชอิศม์ "ลุย"สงขลา ชูเมืองสุขภาพดี อำเภอ น้ำประปาสะอาด ทม.สะเดาติด 1 ใน 4
โดยนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ได้มอบหมายให้ นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผอ.กองสืบสวนและปราบปราม เป็นประธาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร นายด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ส่วนทางมาเลเซียมี Mr.Sahedi bin Din Chief of Unit Nucleus Narcotics Secretariat (Kedah/perlis) หรือหัวหน้าหน่วยที่ดูแลด้านยาเสพติดของรัฐเคดาห์ และเปอร์ลิสต์ รวมทั้งนายด่านเคดาห์ และเปอร์ลิสต์ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องของมาเลเซีย เข้าร่วมประมาณ 40 คน
ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากปัญหาการลักลอบนำยาเสพติด ข้ามประเทศไทย ผ่านช่องทางศุลกากร ทั้งทางท่าเรือ สนามบิน รวมถึงแนวชายแดนต่างๆ ยังคงมีปรากฎอย่างต่อเนื่อง กรมศุลกากร ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด อีกทั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 11/2564
ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสกัดกั้น การลักลอบส่งออก และนำเข้ายาเสพติด ผ่านช่องทางศุลกากร ซึ่งมีอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการ กรมศุลกากร จึงเร่งรัดดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้าย ยาเสพติดข้ามชาติ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ที่ยังคงมีการลักลอบนำยาเสพติด เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเสื่อมเสีย และเกิดผลกระทบต่อประเทศ
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหา การลักลอบนำเข้ายาเสพติด อย่างยั่งยืน กรมศุลกากรจึงได้จัดทำโครงการ เปิดปฏิบัติกร “ยุทธการกำแพงพระนคร” (Narcotics Operation Guardian) ขึ้น โดยในครั้งนี้เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อสกัดกั้นยาเสพติด ระหว่างศุลกากรไทยกับศุลกากรมาเลเซีย รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่ายประสานงานระหว่างประเทศ โดยโครงการนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน 2565
สำหรับวันนี้ เป็นการดำเนินโครงการครั้งแรก ระหว่างศุลกากรไทย กับศุลกากรมาเลเชีย และหน่วยงานความมั่นคงไทย-มาเลเซีย ที่ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนครั้งต่อไปจะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ภาคกลาง ที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และภาคเหนือ ที่ด่านศุสกากรแม่สาย จ.เชียงราย ร่วมกับประเทศ สปป. ลาวกัมพูชา และเมียนมาร์ ตามลำดับ เพื่อให้มีเครือข่ายประสานงาน ในต่างประเทศ ครบรอบด้าน
ด้าน น.ส.สุไฮลา บินตี โมหัมหมัดนอร์ ( Suhaila binti Mohamad Noor) หน.แผนกบังคับคดี/รักษาการผู้อำนวยการศุลกากร บูกิตกายูฮิตัม เคดาห์ บอกว่า ก่อนอื่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุมในครั้งนี้ และขอขอบข้อมูลจากประเทศไทย เกี่ยวกับคดีลักลอบขนยาเสพติดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงมาเลเซียด้วย การประชุมครั้งนี้ เราหวังว่าจะทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ระหว่างมาเลเซียและไทยในการปราบปราม การลักลอบขนยาเสพติดตามตะเข็บชายแดน แม้ว่าโรคระบาดจะยังคงอยู่ ดังนั้นเราหวังว่าด้วยความร่วมมือกับศุลกากรของไทย เราจะสามารถสัดการลักลอบนำเข้าทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางบก
เราจะเพิ่มการตรวจที่เข็มงวดมากขึ้น ในการตรวจตรานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเข้าออกทางบน เรามีการตรวจผู้โดยสารไม่เว้นรถโดยสาร หรือรถยนต์ส่วนตัว เราจะตรวจสอบผู้โดยสาร อย่างละเอียดและเราจะให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว ทั้งจากมาเลเซียสู่ไทยหรือไทยไปมาเลเซีย ว่ามาเลเซียยังคงห้ามการนำเข้า ยาเสพติดทุกชนิดรวมทั้งกัญชาด้วย แม้ว่าที่ประเทศไทยได้อนุญาตให้ใช้กัญชา แต่ห้ามนำเข้ามาเลเซียเด็ดขาด เราจะมีการเพิ่มการปฏิบัติตามชายแดนและทำอย่างต่อเนื่อง และเราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด ไปเผยแพร่ต่อชุมชน เพราะมีคนไม่รู้ถึงโทษของยาเสพติด
ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการบูรณาการร่วมกัน ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสกัดกั้น การลักลอบขนส่งยาเสพติด ข้ามแดน เพื่อปกป้องสังคมให้พ้นจากยาเสพติด ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: