ชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต ทยอยเข้าแจ้งความ หลังเอเยนต์ได้รับเงินแล้ว แต่ไม่ต่อวีซ่าให้
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.65 มีเพจ ชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมได้โพสต์ว่าตำรวจจังหวัดภูเก็ตทำอะไรกันอยู่ ผู้เสียหายไปแจ้งความก็ลงแค่บันทึกประจำวัน เรื่องไม่ถึงสื่อไม่ขยับก้นกันใช่ไหม
ด้วยบริษัทเอเจนซี(รับทำวีซ่าอยู่ต่อในไทยให้คนต่างชาติ)แห่งหนึ่งในภูเก็ต รับให้บริการดังกล่าว ซึ่งรับเงินชาวต่างชาติแล้วและเก็บพาสสปอร์ตชาวต่างชาตินั้นไว้ โดยอ้างว่าจะนำไปดำเนินการต่อกับ ตม /ตรวจคนเข้าเมืองให้ จนเวลาผ่านไป 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน
กระทั่งชาวต่างชาติบางส่วนรอไม่ไหว จึงไปขอคืนและพบว่ามิได้ดำเนินการอะไรให้เลย จนทำให้หนังสือเดินทางชาวต่างชาติทุกคนอยู่เกิน (overstay) ส่วนหนึ่งวีซ่าไม่เกิน 90 วัน แต่บางส่วนวีซ่าเกิน 90 วัน ซึ่งกลุ่มคนชาวต่างชาติส่วนหลังนี้ ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะรู้ตนเองว่าอยู่เกิน (overstay) พาสปอร์ตชาวต่างชาติส่วนหนึ่งเอเจนซี่นั้นยังเก็บไว้ ไม่ยอมส่งคืนให้เจ้าตัว มีชาวต่างชาติที่ได้รับความเดือดร้อนกับบริษัทนี้ ร่วม 100 คนครับ
ผมแค่ช่วยเหลือประสานงานครับ
ล่าสุดวันนี้ 27 มิ.ย.65 มีผู้เสียหายบางรายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมและบางรายเข้าแจ้งความไว้กับสภ.อื่นในจังหวัดภูเก็ต ให้ไปแจ้งความเพิ่มเติมที่สภ.เมืองภูเก็ต
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางคิม ชาวออสเตรเลีย ผู้ประสานแทนผู้เสียหายกล่าวว่าทุกคนไม่รู้ว่าบริษัทเอเจนซี่ดังกล่าวหายไปไหน ต่อมาทราบว่าเปลี่ยนชื่อบริษัทไปแล้ว ตนจึงโทรไปสอบถามเรื่องการต่อวีซ่าและขอเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของ ปรากฏว่าเป็นเบอร์เดียวกับบริษัทเดิม ตนก็ถามว่าทำไมไม่บอกว่าย้ายออฟฟิศไปอยู่ที่ไหน เขาก็อ้างว่าโทรศัพท์หาย จึงไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า
ตนทราบว่าปีที่แล้วมีหลายคนโดนด้วย ตนคิดว่าเขาเป็นคนฉลาดมากเขาทำให้อีกคนนึงแบบราคาไม่แพงแล้วให้ไปบอกกับเพื่อนว่าเขาทำไม่แพงนะจริงๆไม่แพง แล้วพากันมาทำ แต่กลับโดนหลอก ตนอยากให้ทุกคนที่โดนหลอกไปที่ตำรวจไปแจ้งความรีบไปทำไม่ต้องกลัวแล้วก็ไปตม.จบทำอย่างนี้อย่างเดียว อยากให้คนที่หลอกทำพาสปอร์ตให้ถูกเข้าคุก
และก่อนหน้านี้ ตนไปแจ้งความที่ สภ.ฉลอง แต่เขาบอกให้ไปแจ้งที่ สภ.วิชิต พอไปถึงก็โดนให้ไปแจ้งที่ เกาะแก้ว อีก เพราะพาสปอร์ตอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะแก้ว ตนคิดว่าเมืองไทยเปิดเป็นเมืองท่องเที่ยว พร้อมเที่ยวเมืองไทย แต่มีบางคนทำไม่ดี ไม่โอเคนะ
คนที่ไม่ได้รับพาสปอร์ตคืนที่ฉันรู้จักมีทั้งหมด 5 คน ทั้งหมดเป็นเพื่อนกันแต่ของฉันไม่มีปัญหา รู้ไหมทำให้ทุกคนคิดว่าคนไทยไม่ดี คนไทยเป็นคนขี้โกง วันนี้ไปตม. แล้วตม.ว่าเสียดายมาสายไปเพราะ 94 วันแล้วถ้า 90 วันฉันช่วยได้ถ้า 94 วันฉันไม่รู้จะทำได้อย่างไร เสียค่าปรับแน่นอน 100% เสียค่าปรับไม่มีปัญหาแต่ปัญหาเกี่ยวกับต้องกลับบ้าน 1 ปีแกมีลูกที่เมืองไทย เมียทำงานพ่อดูแลลูกคนเล็ก 2 ขวบมีอีก 8 ขวบมีอีก 12 และ17 ปีใครจะดูแลลูก แกไม่ได้ทำอะไรผิด หลายคนไม่ใช่คนเดียวนะ เท่าที่รู้ทั้งหมด 60 คน ที่รู้จัก 5 คน ตอนนี้ทุกคนกลัวเป็นคนรัสเซีย เป็นคนฟิลิปปินส์ เป็นคนอังกฤษแต่ทุกคน โดน 90 วันแล้วกลัวมาก เคยได้ยิน ผู้หญิงคนนี้ ก็ให้ตำรวจไปจับ เพราะว่าจริงๆฉันไม่ได้ผิดอะไรฉันเรียบร้อย ฉันอยู่เมืองไทยมา 30 ปีฉันไม่กลัว
ด้านพ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้เสียหายได้ไปว่าจ้างกับบริษัทเอเย่นต์รับทำวีซ่าแล้วปรากฏว่าพอถึงตามกำหนดไม่ได้ทำให้ตามที่นัดไป ก็ทำให้นักท่องเที่ยวต้องอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้ประสานยังผู้กำกับตม.ก็พบเคสนี้มีอยู่จริง ว่านักท่องเที่ยวได้มีการไปว่าจ้างบริษัทเอเย่นต์ให้ไปต่อวีซ่าให้ ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีการหารือไปยังรัฐบาลกับผู้บังคับบัญชาข้างบนแล้วครับ ซึ่งก็มีมติว่ากรณีการทำต่อวีซ่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางไปทำวีซ่าที่ตม.ด้วยตัวเอง ในกรณีที่นักท่องเที่ยวได้อ้างว่าถูกหลอกลวง นั่นก็อีกขั้นตอนนึงซึ่งทางตำรวจถ้าบริษัทไหนได้ทำการหลอกลวงนักท่องเที่ยวเราก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดแต่ในการทำวีซ่าเป็น หน้าที่ที่นักท่องเที่ยวที่พึงรู้ เหมือนว่าจ้างไปแล้วเหมือนจะครบแล้วก็รีบไปติดต่อตม.เพื่อจะขออยู่ต่อ ทั้งสองด้านไม่ว่าจะเป็นการเยียวยานักท่องเที่ยวถ้าเขาโดนหลอกลวงเราก็จะดำเนินคดีกับบริษัทเอเย่นต์ต่างๆดูแลค่าเสียหาย ที่เขาได้จ่ายตังค์ให้กับบริษัทเอเย่นต์ไปจะติดตามทวงถามมาให้แต่ในเรื่องคดีความในเรื่องของการต่อวีซ่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของนักท่องเที่ยวที่ต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ครบตามระยะเวลาที่ต้องอยู่ในเมืองไทยแล้วและเมื่อครบเวลาแล้วต้องไปต่อวีซ่าด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ช่วยเหลือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในจังหวัดภูเก็ตและได้รับผลกระทบจากนายหน้า/ จากการให้บริการรับต่อวีซ่าของบริษัทตัวแทน
โดยชาวต่างชาติสามารถร้องเรียนหรือนัดหมาย ได้ที่หมายเลขสายด่วน 0864077763 หรือ 076221905 ต่อ 110
