พังงา-พรึ่บ…กำนันผู้ใหญ่บ้านแห่ให้กำลังใจนายอำเภอเมืองพังงา กรณีนำทีมจับบังลุค ไม้ใหญ่ ตัดไม้หวงห้ามในเขตป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพังงา มีนายมาโนช ฐิระพันธุ์ กำนันตำบลนบปริง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองพังงา นายทรงยศ นาคฤทธิ์ นายก อบต.ถ้ำน้ำผุด นำทีมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน -ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน -ชรบ. กว่า100 คน แห่นำดอกไม้มอบให้กับว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอเมืองพังงา เพื่อให้กำลังใจจากกรณีที่นายอำเภอเมืองพังงา สนธิกำลังหลายหน่วยงานบุกเข้าจับกุมบังลุค ไม้ใหญ่ พ่อค้าไม้ใหญ่คนดังทางโซเชียลมีเดีย ที่นำทีมงานเข้าตัดไม้ป่าหวงห้ามในพื้นป่าบ้านสองแพรก ม.2 ต.สองแพรก อ.เมืองพังงา เมื่อวันที่13 มิถุนายน ที่ผ่านมา และได้ดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดบุกรุกแผ้วถางและทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ข้อความต่างๆผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ว่าถูกนายอำเภอเมืองพังงากลั่นแกล้งเข้าจับกุมเพราะเข้าตัดไม้ป่าอย่างถูกต้องบนที่ดินมีเอกสารการครอบครอง ขณะที่ล่าสุดนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ายังมีไม้ที่ตัดโค่นเพิ่มเติมอีก 28 ท่อน จากของเดิม 33 ท่อน รวม 61 ท่อน และมีการตรวจสอบพบว่าเอกสารที่ดิน นส.2 หรือใบจองที่ทางกลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ตัดไม้แต่อย่างใด
นายมาโนช ฐิระพันธุ์ ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองพังงา กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมกับผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น เดินทางมาให้ให้กำลังใจนายอำเภอเมืองพังงาที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ช่วยปกป้องทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานชาวพังงา
นายบุญรงค์ จรูญสวัสดิ์ชัย กำนันตำบลสองแพรก เปิดเผยว่า พื้นที่การตักไม้ป่าอยู่ในเขตตำบลสองแพรก ที่ตนเองดูแลอยู่ ขอยืนยันว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลสองแพรกจะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ที่มีการตัดไม้ป่าหวงห้ามก็อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งนายอำเภอเมืองพังงาได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทางฝ่ายผู้ต้องหายังกล่าวหาโจมตีทางโซเชี่ยลอย่างต่อเนื่องว่าถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง และพบว่าทางนายอำเภอเมืองพังงาไม่เคยออกมาตอบโต้แต่อย่างใด ทางชรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจึงรวมตัวกันมาแสดงพลังให้กำลังใจและสนับสนถุนการปฏิบัติงานของนายอำเภอเมืองพังงา
ด้าน ว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอเมืองพังงา ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ และขอยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใดๆ และจะไม่ขอตอบโต้ทางโซเชียลมีเดีย ขอโฟกัสไปที่การดำเนินคดีตามกฎหมายเท่านั้น เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องปกป้อง รักษาป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติว้ให้ลูกหลานสืบไป หากปล่อยให้มีการบุกรุกทำลายป่า อนาคตก็จะส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟ้าฝนไม่ไปตามฤดูกาล ตินโคลนถล่ม น้ำท่วม และปัญหาอื่นๆ อีกมากมายตามมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: