นราธิวาส-ม.นราธิวาสราชนครินทร์ จัดพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน และถวายเทียนพรรษา ปี 65 เน้นให้นักศึกษา บุคลากรและประชาชน ตระหนักถึง ความสําคัญของประเพณีและวันสําคัญทางพุทธศาสนา
วันนี้ ( 8 ก.ค.2565 ) มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้จัดพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียนและถวายเทียนพรรษา ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2565 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานในพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน และถวายเทียนพรรษา โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์สุเมศ ศรีชู รองอธิบดีฝ่ายกิจการการศึกษามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักศึกษาตลอดจนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างคับคั่ง
ทั้งนี้พิธีหล่อเทียน สมโภชเทียนและถวายเทียนพรรษาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2546 เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทยและจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสมควรที่จะอนุรักษ์ให้อยู่คู่กับสถาบันการศึกษา เพื่อถ่ายทอดให้กับบุคลากรและนักศึกษาที่นับถือศาสนาพุทธ รวมทั้งพุทธศาสนิกชน ได้สืบสานประเพณีอันดีงามของพุทธศาสนาให้คงอยู่และเบ่งบานสืบต่อไป จึงได้มีการรื้อฟื้นและจัดกิจกรรมหล่อเทียนพรรษา 9 ต้น เพื่อถวายวัดต่างๆ จำนวน 9 วัด มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับและชื่นชมยินดี พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือร่วมใจทั้งบุคลากรภายในและบุคคลภายนอกด้วยดีเสมอมา
โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้จัดกิจกรรมหล่อเทียนพรรษาจำนวน 9 ต้น เพื่อถวายวัดต่างจำนวน 9 วัด เช่นทุกปีที่ผ่านมาโดยเริ่มพิธีหล่อเทียนพรรษา และสมโภชเทียนพรรษาในวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 และถวายเทียนพรรษา ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 โดยจะมีการนำเทียนพรรษาไปถวายยังวัดต่างๆ จำนวน 9 ต้น 9 วัด ประกอบด้วย วัดพรหมนิวาส วัดทุ่งกง วัดพนาสณฑ์ วัดโคกเคียน วัดบางนรา วัดประชาภิรมย์ วัดทุ่งคา วัดเวฬุนาราม(วัดป่าไผ่) และวัดรัตนานุสรณ์(วัดทุ่งฝ้าย)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพ ของประชาชนในพื้นที่ ให้มีความรู้ และมีความเข้มแข็ง ในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะการพัฒนาด้าน ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีทางศาสนา ถือว่าเป็นอีกภารกิจที่สำคัญในการที่จะทำให้นักศึกษา บุคลากรในมหาวิทยาลัย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญของประเพณีและวันสำคัญทางพุทธศาสนา ที่อยู่คู่ท้องถิ่นมาอย่างช้านานให้คงอยู่สืบไป
