ตรัง อุทธาหรณ์ความไว้ใจ เจ๊ใหญ่โรงไม้ยางเขาวิเศษ ออกรถให้ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ในตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ เหตุสงสาร หว่านล้อมจนเห็นใจ หลังได้รถใหม่ กลับถูกไฟแนนซ์ตามทวง เหตุขาดผ่อน ธนาคารดำเนินคดี ผู้ใหญ่บ้าน ส่อแววเชิดรถ-ปลอมสลิปตบตา เจ้าทุกข์วอนผ่านสื่อ หวั่นคิดแบล็กลิสต์ธุรกรรมทางการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rattiyakorn Srithep โพสต์ลงบนโซเซียล ว่า “ขอระบายความทุกข์สักนิด
“เนื่องจากมีผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านหนึ่ง ในตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง มาขอความช่วยเหลือให้แม่ช่วยซื้อรถในชื่อแม่ให้ 1 คัน โดยผู้ใหญ่บ้านคนนี้บอกว่าชื่อของตัวผู้ใหญ่บ้านเองและภรรยาไม่สามารถที่จะธุรกรรมกับทางไฟแนนซ์ได้แล้ว แต่ตัวผู้ใหญ่บ้านอยากจะมีรถใหม่สักคันแต่ตัวเองไม่สามารถซื้อได้ จึงมาขอให้แม่ช่วยเป็นธุระซื้อรถให้ที แม่จึงเชื่อเพราะรู้จักกันและมีความน่าเชื่อถือเพราะเห็นว่าเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน และก็ตอนที่มาพูดและขอความช่วยเหลือพูดแบบน่าสงสารและน่าเห็นใจอ้างว่าตอนนี้ตนเองมีรถเก่าๆอยู่ 1 คัน ลูกๆ ก็โตๆ กันหมดแล้ว และกำลังไปศึกษาต่างจังหวัดกันหมดทุกคน จึงทำให้การเดินทางพาลูกไปสอบต่างจังหวัดหรือว่าพาลูกไปเรียนพิเศษหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่สะดวก เพราะรถที่ตนเองมีอยู่เป็นรถเก่าใช้ในการเดินทางไม่สะดวก ทางพ่อกับแม่ของดิฉันเลยเห็นใจและสงสาร เพราะว่าตอนที่บอกว่าซื้อรถคันนี้ ตัวผู้ใหญ่เองจะไม่ให้เสียหาย จะไม่ทำให้ทางแม่เดือดร้อนเป็นอันขาด เพราะแม่ก็บอกทางผู้ใหญ่บ้านไปแล้วว่าตัวแม่เองก็จะกำลังจะกู้ธนาคารอยู่ผู้ใหญ่บ้านก็เลยบอกว่าจะไม่ให้แม่เสียหายแม้กระทั่งนิดเดียว เนื่องจากเงินผ่อนรถนี้จะมาจาก เงินเดือนผู้ใหญ่บ้าน เดือนละประมาน 9,000 บาท แล้วก็ส่วนที่เหลือผู้ใหญ่บ้านบอกว่าทางพี่ของภรรยาจะเป็นคนออกให้ทั้งหมด เพราะอ้างว่าพี่ภรรยาเป็นนายตำรวจยศใหญ่โตสงสารหลานที่ไม่มีรถจะไปไหนมาไหนก็เลยจะช่วยผ่อนรถคันนี้ให้ในส่วนที่เหลือตามที่ผู้ใหญ่บ้านได้อ้างไว้ แต่มาตอนนี้รถคันนี้ได้ค้างผ่อนชำระเกือบจะ 4 เดือนแล้ว เพราะรถคันนี้จะถึงชำระผ่อนทุก ๆ วันที่ 20 ของทุกเดือน รถคันนี้ถึงผ่อนเดือนแรก
วันที่ 20 มกราคม 2565 เดือนแรกทางผู้ใหญ่บ้านผ่อนดีผ่อนตรง เดือนที่ 2 ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ได้ผ่อน ผู้ใหญ่บ้านก็เลยทำใบเสร็จผ่อนรถปลอมมาเพื่อให้แม่ได้สบายใจว่ารถเดือนที่ 2 ได้ผ่อนแล้ว แต่อีก 2 วัน ทาง บริษัทไฟแนนซ์ได้เตือนค่างวดรถเดือนที่ 2 มา ถึงแม่ก็เลยถามไปทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าได้ฝากเค้าไปผ่อนแล้วที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้างสิริบรรณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 แม่ก็เลยไปถามที่สาขาแต่ทางสาขาเค้าก็เลยบอกมาว่า 20/02/2565 ไฟฟ้าที่ห้างดับในรอบ 3 ปีแล้วก็ทางธนาคารได้ทำหนังสือมาบอกว่าไฟดับในวันนั้นไม่มีการผ่อนชำระ แต่แม่ได้ยื่นหลักฐานที่ทางผู้ใหญ่บ้านให้แม่มา ว่าได้ผ่อนแล้ว ทางธนาคารได้ยืนยันว่าใบผ่อนใบนั้นที่ทางผู้ใหญ่บ้านทำมาให้แม่เป็นใบเสร็จปลอมและทางธนาคารจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านแต่แม่ได้ขอไว้ว่าอย่าถึงขั้นนั้น พอมาเดือนที่ 3 ทางผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ผ่อนอีกแล้วก็เริ่มติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านไม่ค่อยได้ แม่จึงไปยืมเบี้ยดอกเค้ามา เพื่อไปผ่อนรถคันนี้ เพื่อจะรักษาเครดิตของตัวเองและหลังจากนั้นมาก็ติดต่อผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งถ้าจะได้ติดต่อต้องติดต่อผ่านทาง อบต.คนหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แม่ก็เลยบอกว่าถ้าว่าพารถคันนี้ไม่รอดก็ให้คืนกลับทางบริษัทไฟแนนซ์ ทางผู้ใหญ่บ้านก็เลยบอกผ่านทาง อบต.คนนี้มาว่า ถ้าอิให้คืนรถต้องให้แม่จ่ายเบี้ยให้ 30,000 บาท.แล้วก็เบี้ยส่วนที่แม่ผ่อนไปไม่จ่ายคืนแล้วก็ค่าค้าง 4 เดือนไม่จ่ายไปแก้ปัญหาเอาเอง อาทิตย์ที่แล้วแม่ก็เลยตามตัวผู้ใหญ่บ้านไปที่บ้านในตัวเมืองทับเที่ยง เพราะบ้านผู้ใหญ่บ้านอยู่ในตัวเมือง เพื่อที่จะปรึกษาหาทางออกเรื่องรถคันนี้ แต่ทางผู้ใหญ่บ้านให้ภรรยาออกมาคุยแล้วก็บอกว่าตัวเองไม่อยู่ทั้ง ๆ ที่หยบอยู่ในบ้าน ทางภรรยาของผู้ใหญ่ก็เลยออกมาคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่คืนรถ แล้วก็ได้เกิดมีปากเสียงกันรุนแรง ถึงทางดิฉันจะขอคำปรึกษาจากทุกท่านที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบนี้ว่าต้องทำอย่างไรหรือจะให้ไปร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านคนนี้ที่หน่วยงานใดได้บ้าง เพราะตอนนี้แม่เครียดอย่างแรงแล้วเพราะบริษัทไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดเกือบจะทุกวัน เพราะพรุ่งนี้ไฟแนนซ์บอกว่าให้จ่าย 2 งวดเป็นเงิน 28,800 บ.พร้อมค่าปรับ ถ้าไม่จ่ายแม่จะติดแบล็คลิสต์แล้วก็จะทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้แล้ว”
โดยนางยินดี ศรีเทพ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274 ม. 1 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวพร้อมแสดงหลักฐานเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ภาพถ่ายหน้าเฟสบุ๊คของอีซูซูย่านตาขาว ใบแจ้งความบันทึกประจำวันสภ.ย่านตาขาวและสภ.เมืองตรัง และหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรม พร้อมกับสลิปโอนเงินค่างวดแรกวันที่ 20 มกราคม 2565 และสลิปโอนเงินปลอมลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีหลักฐานยืนยันจากธนาคารว่าได้หยุดทำการในวันนั้นเนื่องจากไฟฟ้างดจ่ายกระแสไฟ ยังมีหนังสือสัญญาการเช่าซื้อขายผ่อนรถจำนวน 84 งวด จำนวนเงิน 1,201,200 บาท ซึ่งชำระงวดละ 14,300 บาท พร้อมกับเอกสารการทำสัญญาบันทึกข้อตกลงระหว่างผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เป็นผู้ครอบครองรถกับนางยินดี ศรีเทพ ผู้ทำสัญญาแทน
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านคนดัง ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ไม่จ่ายค่างวดรถยนต์และพารถยนต์กระบะสี่ประตู เลขทะเบียน กบ 4862 ตรัง รถคันดังกล่าว ทำให้นางยินดี ศรีเทพ ต้องแบกรับภาระทั้งบริษัทไฟแนนซ์ที่โทรตามทวงหนี้ค่างวดและตนเองเสียเครดิตในการขอกู้เงินมาหมุนธุรกิจแปรรูปไม้ยางพาราซึ่งกำลังขาดสภาพคล่อง จึงเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวให้ช่วยในการนำเสนอข่าวเพื่อให้ตัวเองได้รถยนต์กระบะกลับมาและนำไปคืนให้กับบริษัทเพื่อที่จะเคลียร์เครดิตของตัวเองต่อไป
ด้านนางยินดีให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านคนดัง ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้มาขอให้ตัวเองช่วย ซื้อรถให้หน่อย และ 6 เดือนจะมาเปลี่ยนสัญญา ก็เลยตัดสินใจซื้อให้เนื่องจากเป็นคนสนิทคุ้นเคยกันและยังเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอีกด้วย ก็เลยตัดสินใจซื้อให้ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เต็มใจจะซื้อให้ เป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตูราคาล้านกว่าบาทผ่อนจ่ายค่างวด 14,300 บาท จำนวน 84 งวด ในสัญญาทำทั้งหมด 7 ปี เริ่มผ่อนจ่ายเดือนแรกวันที่ 20 มกราคม 2565 ต่อมาได้มีการรับรถในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาไปรับรถกันมาเรียบร้อยแล้วมาทราบอีกที ก็เป็นวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งก็ทราบโดยทางสื่อโซเชียลที่ทางบริษัทซื้อขายรถได้โพสต์ลงทางเฟซบุ๊ก แล้วตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนไปติดต่อเรื่องรถแต่อย่างใด ยังแกล้งสอบถามไปเลยว่าแล้วรถคันนี้ออกไปแล้วของผู้ใหญ่แล้วรถที่เป็นชื่อของตนนั้นอยู่ที่ไหน ตนจะได้ไปรับ แต่กลายเป็นว่าทางผู้ใหญ่มารับรถไปแล้ว แล้วตัวเองยังถามอีกว่าใครเป็นคนเซ็น ทางเซลล์ขายรถบอกว่าทางผู้ใหญ่เซ็นไปแล้ว แต่เซ็นเป็นชื่อของตัวเองนางยินดี เท่ากับเป็นลายเซ็นปลอม แล้วทางบริษัทก็ให้รถมา หลังจากนั้นตัวเองก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.ย่านตาขาว ซึ่งหลังจากได้รถไปแล้วขณะนั้นทางผู้ใหญ่บ้านก็ยังมาพบปะกับตัวเองอยู่ตลอด และเมื่อใกล้ถึงเวลาจะผ่อนจ่ายค่างวดรถงวดที่ 2 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ตัวเองก็ได้โทรหาผู้ใหญ่บ้านทางผู้ใหญ่บ้านก็รับปากว่าจะรับผิดชอบ ประมาณ 5 โมงเย็นทางผู้ใหญ่ก็ส่งสลิปใบเสร็จโอนเงินจ่ายค่างวดรถมาให้ตัวเองดู หลังจากนั้น ผ่านไปอีก 3 วัน ก็มีข้อความ SMS แจ้งเข้ามือถือของตนเองว่ายังไม่ได้จ่ายค่างวด ตนเองก็ตกใจ ก็เลยโทรเข้าที่ศูนย์ของรถ ทางศูนย์ก็แจ้งว่ายังไม่มีการจ่ายค่างวดรถแต่อย่างใด
หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสิริบรรณ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้แจ้งกลับมายังตนว่าวันที่ 20 ที่ทางสลิปออกมานั้นเป็นวันที่ธนาคารได้ปิดทำการ พร้อมทางธนาคารก็ได้เอาเอกสารมายืนยัน ตนเองจึงทราบว่าเป็นสลิปการโอนเงินจ่ายค่างวดรถปลอม จึงนำเอกสารที่ทางธนาคารยืนยันมาว่าวันนั้นธนาคารปิด และไฟฟ้างดจ่ายกระแสไฟชั่วคราว จากนั้นตนก็พยายาม หาเงินมาผ่อนค่างวดรถไปจำนวน 1 งวด เพื่อรักษาเครดิตไว้ แต่ก็ไม่ทัน หลังจากนั้นตนเองก็นำหลักฐานไปแจ้งความที่สภ.ย่านตาขาวเพิ่ม หลังจากนั้นก็เริ่มติดต่อผู้ใหญ่บ้านไม่ได้อีกเลย ต่อมาตัวเองก็ได้เข้าพบนายอำเภอวังวิเศษเพื่อให้ไปช่วยพูดกับผู้ใหญ่บ้านให้หน่อย ในเบื้องต้น ได้ให้ผู้ใหญ่บ้านไปพบ แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่มาพบ แล้วตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน ตอนนี้ทำตัวเองเสียหายหมดแล้ว แล้วรถก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน จึงทำให้ตัดสินใจโพสต์ลงโซเซียล พอผู้ใหญ่เห็นได้ให้คนมาบอกว่าจะมาแจ้งความตัวเอง ซึ่งตัวเองก็บอกกลับไปว่าให้มาแจ้งเลย เดี๋ยวตัวเองจะไปรออยู่
ซึ่งตอนนี้เท่ากับเขาค้างค่างวดทั้งหมด 3 งวดแล้วตัวเองช่วยผ่อนจ่ายไป 1 งวด ก็เป็น 4 งวด ค้างเงินของตัวเองด้วย และตัวเองยอมรับว่าไม่ได้ต้องการรถคันนี้เพราะมันเป็นภาระหนี้สิน จะเอาใครมาเปลี่ยนสัญญาตัวเองก็ยอม แล้วตอนนี้หากยังติดต่อผู้ใหญ่บ้านไม่ได้ก็จะดำเนินการจนถึงที่สุดจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นอกจากนี้ทางผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ส่งคนมาที่บ้านเพื่อที่จะบอกกับตนเองว่าหากอยากได้รถคืนให้เอาเงินมาให้ตนเองจำนวน 30,000 บาท แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายค่าอะไรเพราะค่างวดก็ยังค้างอยู่ หลังจากนั้นก็ยังมีชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาพูดคุยในลักษณะจะเอารถมาจำนำจำนวน 20,000 บาท ตนก็บอกไปว่าให้เอารถสี่ประตูมาจอดหน้าบ้านและจะเอาเงินให้แต่ชาวบ้านคนดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงว่าให้เอาเงินมาก่อนและจะเอารถมาให้บ้างและพบกันครึ่งทางบ้าง โดยพยายามบ่ายเบี่ยงตลอด ตนเองคิดว่าน่าจะโดนกรรโชกทรัพย์แน่นอน ตอนนี้ไม่อยากจ่ายแล้วไม่รู้จะจ่ายค่าอะไร และยังทราบข่าวมาอีกว่าเมื่อวานทางผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวจะนำรถคันดังกล่าวไปขาย จำนวน 150,000 บาท กับเต๊นท์รถ เพื่อจะเอาเงินไปออกรถอีกคันนึง วันนี้ตนเองต้องการรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกลับคืนมาเพื่อที่จะเคลียร์เครดิตตัวเอง
ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับตัวเองในเรื่องที่ว่า จะไปทำเรื่องกู้เพื่อนำมาทำธุรกิจโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแต่ตอนนี้เสียเครดิตไปแล้ว ตัวเองก็เลยยอมผ่อนส่งค่ารถไป 1 งวดก่อนคิดว่าจะช่วยล้างได้แต่ก็ช่วยล้างเครดิตไม่ได้ ซึ่งทางรถจะให้เราพยายามล้างหนี้ไปเรื่อย ๆ แต่มันไม่ใช่หนี้ของเรา ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่มาคุยแล้วไม่มาหา ซึ่งเมื่อก่อนตัวเองได้ส่งไม้ยางไปยังประเทศจีนแต่พอกระทบโควิด 19 ก็เจอวิกฤตเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ก็ขาดสภาพคล่อง และราคาไม้ยางพาราก็มีราคาถูกลงมาอีก และยิ่งทำให้เราได้รับผลกระทบจะการเสียเครดิตตรงนี้เพิ่มเข้าไปอีก
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านที่คนดังกล่าว โดยติดต่อไปที่เบอร์โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และระบบได้นำเข้าสู่ระบบฝากข้อความ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: