ฉะเชิงเทรา – โลกตะลึง หลังหลวงพ่อโสธรเปลือยเปล่า ปรากฏสู่สายตาผู้คนว่อนโซเชียล ทั้งที่กรมศิลป์ขึ้นป้ายห้ามถ่ายภาพภายในพื้นที่บูรณะ ขณะเพจหน่วยงานราชการเอาบ้างขึ้นโพสต์ขอรับบริจาคเงินร่วมทำบุญ แล้ววันนี้ เผยใช้งบสูงถึง 1.3 ล้านบาท ขณะพระสงฆ์ผู้ดูแลภายในพระอุโบสถยันเห็นภาพแล้ว แต่ไม่ทราบเส้นทางการถูกนำออกไปเผยแพร่ ระบุเป็นการลักลอบถ่ายภาพออกไป โดยที่ผู้ดูแลยังไม่มีใครทราบ
วันที่ 12 ก.ค.65 เวลา 14.31 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการส่งต่อลิงค์ภาพ และข้อความจากสื่อโซเชียลในท้องถิ่น ที่มีการนำภาพเนื้อด้านในขององค์หลวงพ่อโสธร ที่ถูกเปิดเปลือกเนื้อสีที่เคยพอกห่อหุ้มไว้เป็นผิวชั้นนอกออกแล้ว เพื่อทำการบูรณะใหม่โดยกรมศิลปากร ที่บริเวณภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากเกิดรอยแตกร้าวพร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่นๆ และพระอริยสงฆ์สาวก 12 องค์จาก 18 พระองค์
จนทำให้เห็นถึงเนื้อปูนปั้นด้านในแบบดั้งเดิม ตั้งแต่เมื่อช่วงก่อนการปิดพระอุโบสถหลังเก่า เพื่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แห่งนี้ โดยที่การก่อสร้างไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อโสธรพร้อมพระพุทธรูปทั้งหมดออกไปจากจุดที่ตั้งประดิษฐานเดิม เมื่อกว่า 30 ปีก่อน (2531) และหลังจากมีการปิดพระอุโบสถไปเป็นเวลาอย่างยาวนานหลายสิบปี จนได้มีการเปิดพระอุโบสถหลังใหม่ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามากราบไหว้สักการะอีกครั้ง หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2549
กลับปรากฏว่า หลวงพ่อโสธรองค์จริงนั้น ได้มีรูปโฉมที่เปลี่ยนแปลงไปจากองค์ดั้งเดิมมาก โดยที่ไม่ได้มีคำชี้แจงใดๆ ออกมาอย่างเป็นทางการ จากทั้งทางวัดโสธร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทางจังหวัดฉะเชิงเทรา สู่ชาวพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อโสธร ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น จนมาถึงในวันนี้ ที่ได้มีการนำภาพถ่ายของหลวงพ่อโสธรองค์จริง ในขณะที่ถูกเปิดเปลือกนอกออกมาเผยแพร่อยู่ในสังคมในโลกโซเชียล
จึงได้พบเห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมขององค์หลวงพ่อโสธร ที่เคยปรากฏอยู่ในสายตาชาวพุทธเมื่อกว่า 34 ปีก่อนอีกครั้ง หลังจากเปลือกสีภายนอกที่เพิ่งถูกพอกเอาไว้ใหม่ เมื่อกว่า 15 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกลอกออกไปจากการที่มีร่องรอยปูดแตกร้าว จนมีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อมวลหลายแขนงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา (18 ม.ค.65) ถึงกรณีการแตกร้าวที่เกิดขึ้น
โดยล่าสุดในวันนี้ เมื่อเวลา 14.20 น. ยังได้มีเพจเฟซบุ๊กของทางราชการ ที่ใช้ชื่อว่า “ที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม” ได้มีการนำภาพขององค์หลวงพ่อโสธร ที่ถูกลอกเปลือกภายนอกออกไปจนหมดแล้ว มาทำการเผยแพร่ซ้ำขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีข้อความบรรยายและเชิญชวนประชาชนร่วมกันทำบุญว่า “ #บูรณะหลวงพ่อโสธร และพระพุทธรูป 12 องค์วันที่ 16 พ.ค.65-11 พ.ย.65 (180 วัน) งบประมาณ 1,300,000 บ. ท่านใดไม่สะดวกไปทำบุญบูรณะปิดทององค์หลวงพ่อโสธร
สามารถโอนร่วมทำบุญได้ที่ธนาคารกสิกรไทย บัญชีวัดโสธรวราราม วรวิหาร เลขที่บัญชี 1122-192-405 โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 038-511048 สาธุ สาธุ เป็นบุญตายิ่งนัก น้อยคนนักที่จะเคยเห็น !!! เนื้อในขององค์หลวงพ่อโสธร (องค์จริง) ซึ่งตอนนี้ทางวัดกำลังทำการบูรณะปิดทองใหม่ ในโครงการบูรณะปิดทองหลวงพ่อโสธร พร้อมพระหมู่บริวาร หลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร หนึ่งในห้าพระพุทธปฏิมาที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์สัมฤทธิ์ผล ดุจเทพบัลดาล มีเทพยาดาอารักษ์เฝ้าสถิตรักษาจำนวนมาก
เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้เคียงมาช้านาน ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อมูลจากการตรวจสอบภายในหลวงพ่อโสธรโดยกรมศิลปากร พบว่า หลวงพ่อโสธรประกอบขึ้นจากหินทรายแปดชิ้น แล้วพอกปูนทับเป็นองค์ จากวัสดุที่ใช้ และพุทธศิลป์ พบว่าเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น”
อย่างไรก็ตามหลังผู้สื่อข่าวพบว่ามีการนำภาพเนื้อในขององค์หลวงพ่อโสธรออกมาเผยแพร่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี เมื่อวานนี้เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่วัดหลวงพ่อโสธร เพื่อสอบถามถึงกรณีการนำภาพดังกล่าวออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะชนผ่านทางสื่อในโลกโซเชียลว่ามีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่จะได้รับคำตอบจากพระสงฆ์ผู้ดูแลภายในพระอุโบสถหลังใหม่ว่า ไม่ทราบว่าภาพดังกล่าวมีการถูกนำออกไปเผยแพร่ได้อย่างไร
แต่ได้เห็นว่ามีการนำภาพออกไปเผยแพร่ผ่านทางเพจข่าวท้องถิ่นแล้ว โดยที่ทางวัดไม่ได้อนุญาตให้ถ่ายภาพนำไปเผยแพร่ จึงเชื่อว่ามีการลักลอบถ่ายภาพออกไปเผยแพร่ พระสงฆ์ผู้ดูแลภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ ระบุ ขณะเดียวกัน ที่บริเวณภายในพระอุโบสถหลังใหม่ ทางกองโบราณคดีกรมศิลปากร ได้มีการขึงตาขายเป็นม่านสีดำไว้โดยรอบองค์หลวงพ่อโสธรและพระอริยสงฆ์สาวก พร้อมกันพื้นที่เป็นแนวเขตของการก่อสร้างบูรณะไว้ และยังมีการติดตั้งป้ายห้ามเข้าพื้นที่ ห้ามบันทึกภาพและเสียงในพื้นที่ ห้ามถ่ายรูปภายในพื้นที่อีกด้วย
-ไวเหลือเกิน ภาพเปลือยเปล่าหลวงพ่อโสธร กลายเป็นภาพมงคลสวัสดีตอนเช้าไปแล้ว
