ฉะเชิงเทรา – วุ่นหนัก ชาวบ้านแตกตื่นกันแต่เช้าตรู่ เหตุมีหนุ่มลอยอืดข้ามฝั่งคลองไปมา ระหว่างรอยต่อตะเข็บจังหวัด ทำสับสนหลังชาวบ้านแจ้งให้ จนท.จากทั้งสองฝากฝั่งเข้าตรวจสอบ สุดท้ายกลายเป็นเหตุบุคคลลอยน้ำหลายเหตุการณ์ในศพเดียว ขณะญาติคนหายอีกรายรีบรุดเดินทางเข้ามาดูจนถึงในที่เกิดเหตุจากเมืองกรุง แต่ยังไม่ใช่บุคคลสูญหายที่ต้องการตามหา
วันที่ 14 ก.ค.65 เวลา 07.30 น. ร.ต.ท.วรายุทธ วรรณสืบเชื้อ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุพบมีบุคคลเสียชีวิตลอยน้ำภายในบริเวณคลองนิยมยาตรา ซึ่งเป็นลำคลองแนวเขตรอยต่อพื้นที่ระหว่าง อ.บางปะกง และ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจประจำตำบลพิมพา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุพร้อมกัน
ขณะเดียวกันในบริเวณที่เกิดเหตุย่านหน้าวัดคลองนิยมยาตรา ได้มีชาวบ้านหลายรายพบเห็นว่ามีร่างของผู้เสียชีวิตอีกรายลอยไปตามลำคลองในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน และมีการแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบทั้งสองฝั่งคลอง จนเกิดความสับสนกลายเป็นหลายเหตุการณ์ในพื้นที่เดียวกัน โดยชาวบ้านบางรายยังได้แจ้งว่ามีบุคคลถูกห่อผ้าสีขาวถูกนำมาทิ้งน้ำให้ลอยอยู่ภายในลำคลองด้วย
จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทางด้านฝั่งของ สภ.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุตทปราการ นำโดย พ.ต.ท.ศักย์ศรณ์ วรรณประเสริฐ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลีน้อย พร้อมกำลัง 5 นาย เดินทางมายังในที่เกิดเหตุด้วย ก่อนที่จะมีการลากศพให้ลอยไปตามลำคลองเพื่อนำไปขึ้นฝั่งยังที่บริเวณสะพานข้ามคลองเลียบถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา เลยจากจุดที่พบศพไปประมาณ 3 กม. พื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.2 คลองนิยมยาตรา และ ม.3 ต.พิมพา เนื่องจากไม่มีชาวบ้านรายใดยินยอมให้เจ้าหน้าที่นำศพขึ้นจากคลองผ่านพื้นที่บ้านเรือนพักอาศัยของตนเอง
โดยมี พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอนกศรี รอง ผกก. ป. สภ.บางปะกง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ไกรศักดิ์ เฉยฉิว รอง สวป. สภ.บางปะกง เดินทางมาร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุด้วย โดยพบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นชายอายุประมาณ 46 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วันจนร่างกายอืดบวมและมีรอยสักขนาดใหญ่ที่แผ่นหลังและแขน จากการสอบถาม นายเดชา พรมศรี รองนายก อบต.คลองนิยมยาตรา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เดิมเป็นคนงานก่อสร้างที่เข้ามาทำงานอยู่กับสารวัตรกำนันประจำตำบลคลองนิยมยาตราในพื้นที่ ม.3
แต่ได้ถูกนายจ้างให้ออกจากงานไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ตายนั้นเอาแต่ดื่มสุราตลอดทั้งวันโดยไม่ยอมทำงาน จากนั้นผู้ตายจึงได้ย้ายเข้ามาอาศัยกางมุ้งนอนอยู่ที่บริเวณใต้สะพานข้ามคลองหน้าวัดคลองนิยมยาตรา และได้หายตัวไปเมื่อประมาณ 3 วันก่อนที่จะมีผู้มาพบเห็นศพลอยขึ้นอืดเหนือผิวน้ำดังกล่าว และลอยไปลอยมาตามลำคลอง จนทำให้ชาวบ้านสับสนหลังมีคนเริ่มพบเห็นตั้งแต่เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันนี้ นายเดชา ระบุ
ขณะเดียวกันหลังจากมีข่าวพบบุคคลเสียชีวิตปริศนา ลอยอยู่ภายในน้ำ และไหลไปมาให้ชาวบ้านได้เห็นเผยแพร่ออกไปผ่านทางสื่อโซเชียล จึงทำให้ น.ส.สุภาพร มั่งมี อายุ 37 ปี ได้เดินทางมาจากย่าน ถ.อ่อนนุช 86 ในเขตพื้นที่ กทม. เพื่อมาติดตามหาตัว นายเสรี พัวพันธ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ถ.อ่อนนุช 86 ผู้เป็นน้าชายที่ได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย.65 จากบริเวณร้านค้าใกล้บ้านพักจนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว จึงกลายเป็นบุคคลสูญหาย
แต่หลังจากที่ได้เดินทางมาดูจนถึงยังในที่เกิดเหตุแล้ว น.ส.สุภาพร ระบุว่าไม่ใช่น้าชายของตนเองที่กำลังติดตามหาตัวอยู่ หลังจากที่ได้เคยลงโพสต์ประกาศตามหาตัวผ่านทางสื่อโซเชียลมานานถึงกว่า 2 สัปดาห์แล้ว จนมีผู้แจ้งเบาะแสให้ตนเดินทางมาตรวจสอบจนถึงยังในที่เกิดเหตุพบศพของผู้เสียชีวิตรายนี้ แต่ก็ยังไม่ใช่ ทั้งยังระบุว่าผู้เป็นน้าชายนั้น มีโรคประจำตัว คือ โรคลมชัก ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยที่ทางครอบครัวมีร้านค้ารับซื้อของเก่าอยู่ที่หน้าบ้าน น.ส.สุภาพร กล่าว
