ตรัง ปอกเปลือกความคิด “โกหนอ-สมชายบ้านโล่ฯ” เหตุใดต้องทำสงคราม “สาทิตย์” สะกิด “สมบูรณ์” ยื่นมือจัดทัพปชป.ตรังเกือบทุกเขต หนุน 2 พรรคคู่แข่ง ถล่มคนพรรคเดียวกันเอง ยอมรับ ชนวนเหตุเพราะขัดแย้งส่วนตัว เชื่อ “สาทิตย์” อยู่เบื้องหลังเพจอวตาร-คลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้าน โจมตีใช้เงินสกปรกส่งลูกสาวชูคอในสภา ส่งพี่ชายได้เป็นนายกฯอบจ. แต่ไม่ขอดำเนินคดี ลั่น ไม่มีใครเคลียร์ได้แล้ว แม้จะสนิทส่วนตัวกับนายกฯชาย-เลขาฯพรรคก็เอาไม่อยู่ พร้อมให้ “สุณัฐชา” ลาออกจากกก.บห.พรรค เผย น้องชายนายหัวชวน เคยขอร้องให้ยุติศึก แต่ความขัดแย้งเลยมาไกล ขอยก “นายหัวชวน” ไว้บนหิ้ง เชื่อคงไม่ลงมาเคลียร์เอง ลั่นเดินหน้าจัดงาน “คนไม่เอาสาทิตย์” หนุน “ทวี” พปชร. จัดอีกทัพ “พลังท้องถิ่นไทย รุมเขต 2 ท้าชม ส.ส.7 สมัย จะอยู่หรือไปในรอบนี้
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่บ้านวิเศษกุลของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรังเขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดใจถึงปัญหาความขัดแย้งกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งเหตุผลที่ตัวเองต้องออกมาต่อต้านนายสาทิตย์ด้วยการเข้าสนับสนุนนายทวี สุระบาล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐให้ชนกับนายสาทิตย์ในเขต 2 ประกอบด้วยอำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอสิเกาบางส่วน รวมถึงรายละเอียดของการจัดงาน “คนรักทวี” และงาน “คนไม่เอาสาทิตย์” รายตำบลในเขตเลือกตั้งของนายสาทิตย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุนนายกาญ ตั้งปอง ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เขต 4 ซึ่งบางส่วนคาบเกี่ยวกับเป็นพื้นที่เขต 3 ของน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังเขต 3 และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เป็นบุตรสาว ขณะที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ คนใกล้ชิดนายชวนอ้างว่า นายชวนให้การสนับสนุนตัวเองลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งที่จะมาถึงเช่นกัน ทำให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ นายกฯชาย ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ต้องออกมาห้ามทัพความขัดแย้ง โดยระบุถึงสาเหตุที่ทำให้นายสมชายไม่พอใจมาจากนายสมชายเชื่อว่านายสาทิตย์อยู่เบื้องหลังคลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้านโดยผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “จอมพลปฏิวัติ” ส่วนความขัดแย้งเรื่องว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคในเขต 4 จะตัดสินด้วยการทำโพลประชาชนในเขต ซึ่งได้รับความเห็นชอบทั้งจากนายชวน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคแล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายสมชาย แถลงชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ในเขต 2 ตรังของนายสาทิตย์ ตนก็ยังจะสนับสนุนนายทวีเหมือนเดิม ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการจัดงานรวมพลคนไม่เอาสาทิตย์ ตนก็จะยังเดินหน้าต่อไป ส่วนที่ทางพรรคจะมาเคลียร์ทำความเข้าใจระหว่างตนกับนายสาทิตย์นั้น ตนคิดว่ามันไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องเคลียร์กันแล้ว เพราะเรื่องมันเลยไปไกลมากแล้ว ตนบอกแล้วว่าตนมีอิสระในการตัดสินใจ เพราะไม้ได้เป็นสมาชิกพรรคหลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี และเป็นการถูกให้เว้นวรรคทางการเมืองที่ไม่ใช่จากการทุจริต แต่เป็นการไปช่วยนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกฯอบจ.ตรัง พี่ชายนายชวนปราศรัยตอนสมัครนายกฯอบจ.ตรังที่อำเภอหาดสำราญ แล้วตนไปกล่าวให้ร้ายป้ายสีผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่เป็นคู่แข่งของทีมกิจปวงชนของนายกิจ คดีนี้ตนรับสารภาพกับศาล ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน ปรับ 8 หมื่นบาท และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ซึ่งตนน้อมรับและหยุดการเมืองนับแต่นั้นมา
“หลังจากนั้นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ผมก็ไม่ได้เป็น เพราะกลัวจะมีปัญหากับพรรค เนื่องจากผมโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส่วนที่นายกฯชายบอกว่า หลังศึกอภิปรายไม้ไว้วางใจรัฐบาลจะมาเคลียร์ความขัดแย้งครั้งนี้นั้น จริงๆเราคุยกันโดยตลอดนะ ผมสนิทกันกับนายกฯชาย โดยเฉพาะกับนายเฉลิมชัย เราก็สนิทกัน นายเฉลิมชัยกับนายเดชอิศม์ เคยมากินข้าวที่บ้านผม 2 ครั้ง และนายเฉลิมชัยเคยขอร้องเรื่องนี้ไว้เหมือนกันว่าไม่อยากให้ผมไปยุ่งในเขต 2 ของนายสาทิตย์ เพราะนายเฉลิมชัยรู้ว่าหลังการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรังครั้งที่ผ่านมา ผมต้องมีอะไรค้างคาอยู่ ผมก็รับปากแล้วนะ ไม่อยากไปยุ่ง แต่สุดท้ายมันมาเกิดประเด็นเรื่องคลิปแฉ บ่อนเรือนไทยร้อยล้าน มีเพจปลอมออกมาซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นของใครในจังหวัดตรัง เป็นเพจอวตาร ชื่อ “คนขาดหุ้น ณ เมืองตรัง” ก็รู้ๆกันอยู่ มากล่าวหาว่าผมรับเงินสกปรกจากบ่อนเรือนไทยร้อยล้านเอามาส่งลุกสาวไปชูคอในสภา ผมว่ามันหนักเกินไปสำหรับผม นี่คือจุดแตกหักที่ผมคิดว่าจะประสานรอยร้าวยากแล้ว”นายสมชายกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลักฐานชี้ชัดไหมว่านายสาทิตย์อยู่เบื้องหลังคลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้านและเพจอวตาร “คนขาดหุ้น ณ เมืองตรัง” นายสมชายตอบสวนอย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่ใช่ความเชื่อ แหม ทำการเมืองระดับนี้เรารู้ทันกัน ในวงการเรารู้ๆกันอยู่ ไอ้เพจนี้ออกมาด่าเราตลอด แล้วเราก็รู้ว่าเป็นของใคร คนในวงการรู้ดีว่าเป็นของใคร” เมื่อถามต่อว่า ทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะตำรวจไซเบอร์ก็มี นายสมชายตอบว่า “ไม่ๆ เราไม่อยากให้เป็นคดี มาสู้กันทางการเมืองดีกว่า ถ้าคุณเก่งจริง เป็นส.ส. 7 สมัย คุณรักษาให้ได้ถึงสมัยที่ 8 นะ ผมขออวยพรคุณสาทิตย์ด้วย แล้วหลังมีข่าวออกไปว่าผมรับเงินสกปรกส่งลูกสาวไปชูคอในสภาฯ ทั้งเลขาธิการพรรค และรองหัวหน้าพรรคภาคใต้เขาส่ายหน้าเลยนะ บอกเล่นกันอย่างนี้เลยเหรอ” เมื่อถามว่า นายเดชอิศม์บอกว่านายสาทิตย์ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย นายสมชายส่ายหน้าแล้วตอบว่า เขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องพิสูจน์กันให้ชัด เพราะรู้ๆกันอยู่แล้ว เขาพูดเก่ง ตนพูดไม่เก่งแต่ตนพูดความจริง คนในเขตเลือกตั้งที่ 2 รู้กันดีว่าฝ่ายนายสาทิตย์พูดเก่ง ตอนเลือกนายกฯอบจ.ก็ไลฟ์สดทุกวัน ตนไม่เคยพูดอะไรเลย แต่ประชาชนเริ่มเบื่อคนพูดเก่งอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว ไม่นั้นตนจะชนะคะแนนนายกฯอบจ. 7 พันกว่าคะแนนในพื้นที่บ้านเกิดของนายสาทิตย์ในอำเภอห้วยยอดได้อย่างไร ในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอดมี 13 เขตเลือกตั้ง ตนชนะ 9 เขต มันต้องตั้งคำถามว่าตนไปชนะในบ้านนายสาทิตย์ได้อย่างไร แต่ในบ้านผมนายสาทิตย์แพ้ตลอด นี่คือข้อพิสูจน์และสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนจะหยุดนักการเมืองดีแต่พูดไว้เท่านี้ รอบหน้าในเขตของนายสาทิตย์ ใช้บัตร 2 ใบ เลือกคนกับเลือกพรรค ใบหนึ่งเลือกนายทวี อีกใบก็เลือกประชาธิปัตย์ ตนว่าชาวบ้าเขาเลือกถูก ตนจะรณรงค์ให้เลือกนายทวี แต่คะแนนบัญชีราชชื่อให้เลือกประชาธิปัตย์ ส่วนอีก 3 เขตของตรังที่เหลือ ให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค ส่วนเขต 2 ขอให้ช่วยพรรคอย่างเดียวพอ ตนชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์
นายสมชายกล่าวว่า ส่วนความขัดแย้งระหว่างตนกับนายสาทิตย์จะบานปลายถึงขนาดนายชวนต้องลงมาเคลียร์เองหรือไม่นั้น นายชวนเรายกไว้บนหิ้ง เราให้ความเคารพ แต่เมื่อปี 2551 นายสาทิตย์จัดทัพลงมาสมัครส.จ.ในพื้นที่อำเภอห้วยยอด 5 คน อำเภอรัษฎา 1 คน และอำเภอวังวิเศษ 2 คนแล้วส่งมาในนามพรรคเพื่อมาแข่งกับนายกิจ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์และเป็นพี่ชายของนายชวน นี่คือสิ่งที่คุกรุ่นในใจกันมานานแล้ว เพราะนายสาทิตย์ต้องการมีบริวารเป็นส.จ. ถึงขนาดเอาภาพนายชวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ภาพผู้สมัคร และภาพของตัวเองไปขึ้นป้ายหาเสียงแข่งกับภาพนายกิจกับผู้สมัครทีมกิจปวงชน ทำได้อย่างไร แค่คิดก็ผิดแล้ว นี่คือความพยายามไข่คว้าหาอำนาจเพื่อให้ตัวเองเป็นบ้านใหญ่มาโดยตลอด แต่โชคดีที่ไม่เสร็จ แต่ตอนนั้นคนตรังตั้งคำถามกันว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมสาทิตย์ไปใช้คอนเน็กชั่นของนายอภิสิทธิ์มาตั้งทีมแข่งกับนายกิจ พี่ชายนายชวน เพราะนายกิจช่วยนายชวนหาเสียงมาตั้งแต่ปี 2512 นายสาทิตย์ไม่ควรทำเช่นนั้น วันนี้ตนต้องพูดความจริงให้คนตรังได้เข้าใจ
เมื่อถามว่า การออกมาสสนับสนุนนายทวีซึ่งเป็นผู้สัมครพรรคคู่แข่งให้ชนะผู้สมัครของพรรคตังเองในเขต 2 จะทำให้ผู้บริหารพรรคไม่สบายใจหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ผู้บริหารพรรคคงไม่สบายใจ ตนรู้ แต่เลขาธิการพรรคเข้าใจ นายเฉลิมชัยบอกตนว่าทำไมเขามาเล่นงานตนแบบนี้ ใครจะรับได้ ยอมรับว่าทางพรรคไม่สบายใจเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว แต่พรรคเข้าใจ ส่วนนายสาทิตย์นั้นแข็งแกร่งแล้ว เป็นมา 7 สมัย ดังนั้นตนจะขอพิสูจน์นายสาทิตย์ในสมัยที่จะถึงนี้ด้วยความสามารถของตน นอกจากนี้ในส่วนของนายกฯท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านต่างๆในเขตของนายสาทิตย์ ตนขอเป็นคนรวบรวมว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังท้องถิ่นไทย มาสู้กับนายสาทิตย์อีกทางหนึ่งด้วย ตนจะรวมมาทั้งหมดมาลองกับนายสาทิตย์สักทีในรอบนี้ เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นพ่อของน.ส.สุณัฐชา ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน สังคมจะเกิดความสับสนกับความเคลื่อนไหวแบบนี้หรือไม่ นายสมชายตอบว่า สังคมไม่สับสน เพราะเขารู้ดีว่านายสาทิตย์พยายามขยายอำนาจตั้งแต่เลือกตั้งอบจ.ปี 2551 ดังนั้นตนยังคงช่วยประชาธิปัตย์เหมือนเดิม ช่วยลูกสาว แต่ตรัง 4 เขต ตนขอช่วยแค่ 3 เขตคือ เขต 1 เขต 3 และเขต 4 ส่วนเขต 2 ตนขอช่วยนายทวี ตนไม่ใช่คนพูดลับหลังหรือเอามือไว้ใต้โต๊ะ ตนพูดตรงๆ แล้วก็ไม่กระทบ เพราะตอนนี้เรามี แค่ 3 เขตเลือกตั้ง แต่เลือกตั้งที่จะมาถึงแบ่งเพิ่มเป็น 4 เขตเลือกตั้ง ตนเบรกนายสาทิตย์ได้ ก็เท่ากับเรามี ส.ส. ได้ 3 เขต ก็เท่าเดิม ไม่เสียหายอะไร
“ส่วนเรื่องเคลียร์ เรายกท่านชวนไว้บนหิ้งดีกว่า แล้วผมก็คิดว่าท่านชวนคงไม่ลงมาคุยมาเคลียร์เรื่องนี้ เพราะถ้าท่านจะคุบท่านคงคุยไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ ผมไปเคีลยร์กับนายสาทิตย์ ตอนแรกที่จะรวมทีมกับลงสมัครนายกอบจ.รอบล่าสุด ซึ่งผมเสนอกับนายสาทิตย์ไปว่ามารวมกันแล้วจะให้นายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายนายสาทิตย์ ที่สุดท้ายลงแข่งนายกฯอบจ.กับนายบุ่นเล่ง โล่สถาพรพิพิธ นายกฯอบจ.คนปัจจุบันซึ่งเป็นพี่ชายผม ตอนนั้นผมเสนอว่าถ้ารวมกันได้ ผมให้นายสาธรเป็นรองนายกฯอบจ. แต่ตกลงกันไม่ได้ก็แลยแตกกัน ตอนนั้นผมกับน.ส.สุณัฐชาเชิญมาคุยที่บ้าน เพราะเราไม่อยากให้ภาพพรรคประชาธิปัตย์มันแตกหัก อยากให้ประชาธิปัตย์มีภาพเป็นเนื้อเดียวกัน แต่เขาไม่ยอมเพราะเขาอยากให้ปลดผู้สมัครส.จ.ในเขตห้วยยอดของทีมกิจปวงชนออกทั้งหมดแล้วส่งทีมของเขาลงสมัคร แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ เพราะของเขาแพ้หมด”นายสมชายกล่าว
เมื่อถามว่า ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามให้ชนะผู้สมัครฝ่ายตัวเองแบบนี้ จะกระทบต่อการทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคของลูกสาวหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า คะแนนบัญชีรายชื่อในนามพรรคตนเชื่อว่าคนตรังไม่ทิ้งนายชวนหรอก แต่เรื่องตัวบุคคลในเขต เราต้องพิจารณา พรรคอยู่ข้างบนบางทีก็ไม่รู้ว่าพื้นที่จริงๆเป็นอย่างไร ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคของน.ส.สุณัฐชา ตนจะให้น.ส.สุณัฐชาลาออก เพราะวันที่มีการใส่ชื่อตั้งลูกสาวตนเป็นกรรมการบริหารพรรค ตนบอกเลขาฯพรรคว่าลูกสาวตนยังเด็ก อายุยังน้องเพิ่งจะ 30 ปี อย่างให้เป็นเลย แต่หัวหน้าพรรคกับเลขาฯพรรคไม่ยอม บอกว่าลูกสาวตนมีแวว เป็นคนกล้าพูด ตนก็บอกว่าก็แล้วแต่ แต่ใจจริงๆแล้วตนไม่อยากให้เป็นเพราะยังเด็กเกินไป เพิ่งเป็นส.ส.สมัยแรก เราอย่าไปทะเยอทะยานตำแหน่ง ทำงานในหน้าที่ผู้แทนฯให้ดีที่สุดพอแล้ว การเมืองค่อยเป็นค่อยไป ถ้าจะมีใครถามหาความสง่างามในนามกรรมการบริหารพรรคของลุกสาว ก็ไม่เป็นไร พร้อมลาออกตลอดเวลาเพื่อมาทำหน้าที่ส.ส.ตรัง ดังนั้นถ้าต้องออกจากรรมการบริหารพรรค จะไม่มีผลใดๆเลยต่อความรู้สึกตน
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่ทำไมถึงอยู่เบื้องหลังทางการเมืองและการวางตัวผู้สมัคร ทั้งส.จ. และส.ส. นายสมชายตอบว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เสนอในนามประชาชน เพราะอย่างเขต 4 ที่นายสมบูรณ์อยากลงสมัครอีก ตนก็คุยกับผู้บริหารพรรคที่สนิทว่า เป็นหลุมดำ เดี๋ยวจะเหมือนกับเขต 1 ของน.พ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ อดีตส.ส.ของพรรคที่เราเสียพื้นที่ไปทั้งที่น.พ.สุกิจยืนยันว่าตัวเองเสียงดีตลอด เที่ยวนี้ตนในฐานะเป็นส.ส.เก่าของพรรคและเป็นคนรักประชาธิปัตย์ ผมจึงบอกว่าต้องระวัง ตนไม่ได้พูดถึงเขต 2 ของนายสาทิตย์เลยด้วยซ้ำ และในเขต 4 ตนไปช่วยน.ส.สุณัฐชาทำพื้นที่พบว่า ใน 100 คน มี 99 คนแล้วที่มีปัญหากับนายสมบูรณ์ ตนเลยประสานไปทางพรรคให้หาคนมาลงแทนนายสมบูรณ์แล้วทำโพล แล้วที่นายสาทิตย์บอกว่า นายสมบูรณ์ที่ความชอบธรรมที่จะลงสมัคร เพราะน.ส.สุณัฐชาได้กลับไปเขต 3 เดิม มันก็จริง แต่นายสมบูรณ์จะสอบตก เชื่อผม
“ที่จริงในตรังเราไม่ควรตกแม้แต่เขตเดียวรวมทั้งเขตของนายสาทิตย์ แต่กรณีนายสาทิตย์นี้เป็นเคสพิเศษที่เกิดความขัดแย้งกันส่วนตัว จริงๆนายบุ่นเล้งพี่ชายผม รวมทั้งเลขาธิการพรรค นายกฯชาย และคนในบ้านหลีกภัย เคยขอร้องผมนะ ว่าให้หยวนๆนะหลังจากเลือกนายกฯอบจ.เสร็จแล้วขอให้จบ พี่ระลึก หลีกภัย น้องชายท่านชวนเคยขอร้องผมว่าจบได้ไหม ตอนนั้นผมว่าได้ แต่ตอนนี้มันไม่ได้แล้ว เพราะมันเล่นผมหนักเกินไป มันว่าที่ผมส่งลูกสาวได้ไปอยู่ในสภามาจากเงินบ่อน ออกมาพูดได้ยังไง แล้วสุดท้ายบ่อนมันมีไหม ทั้งพล.ต.ท.สุรเชษฐ์หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าฯตรัง ก็สรุปออกมาแล้วว่าไม่มีบ่อน มีแต่บ่อนชนวัวชนไก่ซึ่งก็มีมูลค่าร้อยล้านจริงๆ ซึ่งเป็นกีฬาวัฒนธรรมภาคใต้ที่คนใต้เขาชอบกัน เป็นการพนันถูกกฎหมาย ผมก็ชอบชนวัว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ก็ชอบถึงขนาดมีสนามชนวัวของตัวเองแล้ว เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายป้ายสีว่าการเลือกตั้งอบจ.ทีผ่านมาไม่สุจริต แล้วเขาก็ร้องเรียนไปยังกกต.ถึง 3 เรื่อง”นายสมชายกล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
