สระแก้ว – ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจฯ เปิดโปงเส้นทางธุรกิจสีเทาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยระบุว่า ทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 ใช้กฎอัยการศึกเอื้อประโยชน์ร่วมกับนายพลกัมพูชา กีดกันชาวบ้านน้อยป่าไร่ที่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่ให้เข้าทำกินในที่ดินของตัวเอง อ้างมีกับระเบิด เปิดทางขนของเถื่อนและแรงงานผิดกฎหมาย เก็บรายได้วันละ 1 ล้านบาท ระบุไทยเสียดินแดนชัดเจน พร้อมเปิดภาพคลิป รถปิกอัพหลังคาขาวขนของเถื่อนวิ่งเกลื่อนกว่า 10 คัน
เมื่อเวลา 22.20 น.วันที่ 21 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้อภิปรายกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดูและปกป้องอธิปไตย อาณาเขต เกียรติภูมิของประเทศและผลประโยชน์ของชาติ โดยนำข้อมูลเปิดโปงการทุจริต จนนำความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งมีการนำอธิปไตยของชาติ ไปหารับประทานโดยมีกองทัพภาคที่ 1 ดูแลตลอดเส้นทางถนนศรีเพ็ญ 165 กม.โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระยะทางประมาณ 5-6 กม. ซึ่งเป็นถนนที่คู่ขนานไปกับชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่มีแม่น้ำ ลำคลอง หรือภูเขา ขวางกั้น ซึ่งบางจุดห่างแนวชายแดนไม่ถึง 100 เมตร ทำให้ลักษณะภูมิประเทศเหมาะกับการขนถ่ายสินค้าหนีภาษี สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เพราะไม่ไกลสามารถเดินได้แบบไม่ลำบาก ซึ่งชาวบ้านเห็นจนชินตา โดยจากการลงพื้นที่จุดที่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ดูแลคาดว่ามีการเก็บรายได้วันละ 1 ล้านบาท ทหารมีอำนาจผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ เพราะทหารต้องการให้พื้นที่ตรงนั้นเป็นป่าทึบ
นายวิรัตน์ ระบุว่า การประกาศกฎอัยการศึก ตั้งแต่หัวถนนตั้งแต่โรงเกลือถึงปลายถนนสามแยกกองร้อยทหารพราน ทำให้ทหารรวบอำนาจไว้ได้แต่เพียงหน่วยเดียว ทำให้สองปัจจัยนี้จึงเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านน้อยป่าไร่ กลุ่มนี้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาฯ เพราะไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองได้ โดยทหารไม่ให้เข้าพื้นที่ แต่ป่าไม้บอกว่า เอกสารถูกต้อง ส่วนที่ดินบอกว่า ถูกต้อง ชาวบ้านเข้าไปก็ถูกไล่ออกมา ชาวบ้านทำอย่างนี้ทุกวัน ตั้งแต่ต้นปี 2565 ทำมา 6 เดือน ชาวบ้านเข้าไปปรับที่ดินทหารก็ไม่ให้ทำ สาเหตุเพราะทำเลที่ดินตรงนี้ สามารถตรงไปออกชายแดนได้หลายจุด ชาวบ้านบอกว่า เจ้าหน้าที่ที่ดิน บอกว่า เจ้าของที่ดินซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ต้องเข้าทำกินให้ครบร้อยละ 70 จึงจะสามารถออกโฉนดได้ เมื่อชาวบ้านเข้าไปทำกลับถูกทหารกัมพูชารุกล้ำประเทศไทยเข้ามาอ้างสิทธิ์ว่า ดินแดนเขมรอยู่จรดถนนศรีเพ็ญ สุดท้ายทหารไทยก็เข้าไปพูดคุยซูเอี๋ยกัน ชาวบ้านเข้าไปทำกินก็ถูกทำลายต้นไม้ ทำลายเพิงพัก ทุกครั้งที่เข้าไปทหารเขมรก็ออกมา บอกว่า เป็นแผ่นดินเขมรโดยที่ทหารไทยซึ่งตั้งจุดอยู่ถึง 12 จุดไม่ทำอะไร
ทั้งนี้ นายวิรัตน์ ยังเปรียบเทียบกรณีของพื้นที่ป่าไร่ กับกรณีของ นายวีระ สมความคิด ที่เข้าไปตรวจสอบที่ดินที่ อ.โคกสูง และถูกเขมรจับไปติดคุก 3 ปี แต่กรณีนี้หนักกว่า เพราะนายกรัฐมนตรีบอกว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แบ่งกันกิน กรณีที่ศาลพิพากษากรณีนายวีระ สมความคิด รมว.กลาโหม ขณะนั้น ให้การบอกเองว่า ที่ดินตรงนั้นเป็นของกัมพูชาจริง โดยที่นายกรัฐมนตรีไม่หือไม่อือ ปล่อยให้เขมรจับนายวีระฯ ไปจนถูกดำเนินคดีติดคุก สำหรับกรณีของชาวบ้านป่าไร่ มีภาพคลิปที่ทหารไทยกำลังเจรจากับทหารกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในประเทศไทย มีการถกเถียงกัน คุณบอกว่า เป็นของคุณ ป้อมทหารอยู่ใกล้ ๆ ก็ต้องไปเรียกมาเจรจา ให้กลับไป แต่ก็ยังกลับมาข่มขู่ชาวบ้านอีก
นอกจากนั้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ยังได้เปิดคลิปชาวบ้านถกเถียงกับทหารไทย ที่ห้ามไม่ให้ชาวบ้านลงไปทำกินในที่ดินของตนเอง บอกให้เรียกผู้กองมา บอกว่าทำหน้าที่อยู่ ซึ่งชาวบ้านบอกว่า มันเป็นเรื่องแย่มากหรือที่ชาวบ้าน ไม่ยอมให้เข้า ให้เอามีดไปสับเอา ทำไร่จะไม่ให้ใช้รถไถได้อย่างไร ทำไมปล่อยให้เขมร เข้ามาไล่ชาวบ้าน บอกแต่ว่า ผมอยากให้ชาวบ้านเข้าทำกิน จะให้รอถึงเมื่อไหร่ หลายครั้งที่ชาวบ้านถูกทหารเขมรมาขับไล่ แล้วยังถูกทหารไทยไม่ให้ใช้รถไถ ชาวบ้านถูกข่มขู่ถ่ายรูปโดยทหารไทยเพื่อเอาไปรายงานนาย ขณะที่นายทหารที่เป็น ผบ.ชค.ทพ.12 บอกว่า ตัวผมเป็นห่วงชาวบ้าน เข้าไปจะมีวัตถุปนเปื้อน ตรงไหนปนเปื้อนไม่รู้ ถ้ามีการเคลียร์แล้วก็ให้เข้า ส่วนนายวีระ สมความคิด ซึ่งลงพื้นที่ไปดูบอกว่า ชัดแล้ว ในเมื่อมีเอกสารสิทธิ์ ในเมื่อทางการไม่ยอมให้ชัดเจน แต่คุณก็ยังไม่ยอม คุณอยากจะเข้า คุณต้องรับผิดชอบเอง ชาวบ้านอยากให้เรียนผู้การฯ ส่งน้อง ๆ มาดูแล ทหารบอกกองกำลังฯไม่ได้นิ่งนอนใจ
นายวิรัตน์ อภิปรายอีกว่า ทหารอ้างว่า มีกับระเบิด 30 ปี แล้วยังกู้ไม่หมดอีกหรือ ชาวบ้านเขาจะเข้าไปกินในที่ตัวเอง ขู่ว่า มีระเบิดข้างใน จนนายวีระฯ ต้องเข้าไปช่วยพูดคุย ส่วนสัญญาที่ทหารเช่าที่ป่าไม้ 30 ปี ตอนนี้สัญญาหมดอายุตั้งแต่ปี 2562 ทำไมทหารยังอิดออด ทั้งที่สัญญาเช่าหมดไปแล้ว ยังไปทำเรื่องขอเช่าต่ออีกเพื่ออะไร ซึ่งจากภาพแผนที่หลังเส้น MOU ปี 43 มีการปล่อยชาวบ้านให้กัมพูชาเข้ามาก่อสร้างเข้าใกล้เส้นเอ็มโอยูซึ่งไทยอ้างสิทธิ์ชัดเจน แต่ฝั่งไทยให้ทหารขับไล่ชาวบ้านไม่ให้เข้าไปใกล้เส้น MOU ดูจากแผนที่แล้ว ฝั่งเขมรเจริญกว่า แต่ฝั่งไทยขายขี้หน้า 3 ป. บริหารได้แค่นี้ กัมพูชาผลักดันให้ชาวบ้านเข้มาอยู่ในพื้นที่บ้านน้อยป่าไร่เดิม ตอนนี้ชาวเขมร เข้ามาอยู่ที่บ้านหนองดอและบ้านน้อยป่าไร่ และโคกสูง ทำให้ตอนนี้ประเทศไทยเสียดินแดนไปแล้ว ทั้ง 3 ป. เคยเป็นแม่ทัพภาค 1 ทั้ง 3 คน ทำไมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ และทำไมพี่น้อง 3 ป. จึงเติบโตจากกองกำลังบูรพา
“ยกตัวอย่างแรงงานเถื่อนที่ทหารจับชาวกัมพูชาได้ มีค่าใช้จ่าย 6,000-7,000 บาทต่อหัว ,แต่ชาวจีนหัวละ 1 แสนบาท สามารถพูดได้เลยว่า ถ้าทหารจะจับจริง ๆ มดซักตัวก็ผ่านไป-มาไม่ได้ เพราะมีป้อมทหารอยู่ตลอดเส้นทาง ยกตัวอย่างจากภาพเส้นสีเหลืองของถนนศรีเพ็ญ ช่วงสั้น ๆ เพียง 5 กม. คู่ขนานไปกับเส้นสีฟ้าชายแดนที่ไทยอ้างสิทธิ มีทางออกถึง 5 จุด และเส้นทางเหล่านี้ มดซักตัวก็ผ่านไปไม่ได้ ถ้าทหารไม่ให้ผ่าน โดยมีเส้นทางผ่านเข้า-ออกหลัก 4 เส้นทาง คือเส้นทางที่ 1. ใกล้และตรงข้ามกับกองร้อยทหารพรานฯ และอีกเส้นทางที่ 2. ใกล้ที่ดินของ นายสารี ฯ ที่ทหารกัมพูชาบุกมาไล่คนไทย ,เส้นทางที่ 3. เป็นเส้นทางของอดีตกำนันชื่อย่อ ว. ที่สนิทสนมกับนายทหารฝั่งกัมพูชา ซึ่งมีวงสีแดงบอกว่าพื้นที่มีวัตถุระเบิด แต่ก็มีการเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย, ส่วนเส้นทางที่ 4. เป็นเส้นทางของคุณหญิงคนหนึ่งชื่อย่อ ป. มีเส้นทางเข้า-ออกของได้ครบถ้วน” นายวิรัตน์ กล่าวและว่า
โดยเส้นทางทั้ง 4 เป็นเส้นทางเข้า-ออก และหารายได้ของทหารเลว ๆ มีหัวหน้าฝั่งกัมพูชาชื่อว่า นายพล ซ. ร่วมมือกัน และกล่าวหาว่าส่วยดังกล่าวส่งถึงระดับสูงที่พล.อ.ประยุทธ์รู้เห็น และการประกาศกฎอัยการศึก ถือเป็นสิ่งเดียวที่เอื้อให้อำนาจทั้งหมดอยู่ที่ทหาร และปัจจุบันการยังคงกฎอัยการศึกไว้ ทำให้สามารถเปิดทางให้ธุรกิจผิดกฎหมาย ของเถื่อน แรงงานเถื่อน เข้าได้อย่างสะดวก ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบชัดเจน โดยมีแม่ทัพเป็นสายตรงกับบิ๊กตู่ และมีข้อมูลว่า ช่วงที่ผ่านมามีการสับเปลี่ยน ผบ.ชค.ทพ.12 ที่ไม่ตรงกับฤดูโยกย้ายโดยโยกนายทหารมาจากกาญจนบุรีมาคุมพื้นที่แทน หลังผลการสอบสวนของกองทัพ ซึ่งมีการปกปิดไม่ยอมเปิดเผยออกมา พบว่า ผบ.ร้อยฯ มีความผิดทั้งหมด แต่มีที่ลาออกไปก่อน 1 คน ซึ่งยังพบอีกว่า มี ผบ.ร้อยฯ ชื่อว่า ผู้กอง ช. มีทองคำแทงอย่างเดียวมากกว่า 100 ล้านบาท คนที่ให้ข้อมูลนี้กับนายวีระ สมความคิด ก็เป็นทหาร แต่เรื่องเหล่านี้ ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร รู้ปัญหาแต่เข้าไปไม่ได้ เพราะมีกฎอัยการศึกคุมไว้ ทำให้ทหารสามารถรวบอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว ตำรวจ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หรือหน่วยงานอื่นๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง
นอกจากนั้น ผลสอบของกองทัพภาคที่ 1 กรณีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งมีการลงโทษแค่เอาไปประจำที่ มทบ.19 ตำแหน่ง ชำนาญการ 007 เมื่อผลสอบออกมาแล้ว ทำไมไม่เปิดเผยผลสอบ ทำไมไม่ส่ง ปปช.ดำเนินการ เหตุใดจึงเอาไปประจำการเพื่อรอเกษียณ จึงต้องการถามนายกรัฐมนตรี พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ตอบเรื่องนี้ ปัจจุบันนี้ ทหารไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในที่ดินตัวเอง เหตุเพราะว่า ต้องการให้สภาพตรงนั้นเป็นป่า เพื่อใช้เป็นเส้นทางธุรกิจผิดกฎหมายหลังช่วง 6 โมงเย็น จะสามารถเข้า-ออก ได้อย่างสะดวก รวมทั้งทหารมีการข่มขู่ชาวบ้านว่า มีกับระเบิดห้ามใครไปยุ่ง จึงสามารถกำหนดช่องทางได้ชัดเจน โดยกำหนดให้มีการเข้า-ออก ของเถื่อน 6-7 ช่องทาง และอ้างว่า มีกฎอัยการศึกและมีกับระเบิด จึงไม่ปลอดภัย และไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปทำกิน อ้างเก็บกู้ระเบิดไม่หมด ทหารอ้างว่า เพื่ออธิปไตย แต่ ณ ปัจจุบัน เขมรเข้าไปทำกินแล้ว ทำให้ขณะนี้ไทยเสียดินแดนหมดแล้ว
นายวิรัตน์ ยังนำภาพคลิปภาพของขบวนการขนสินค้าเถื่อนไปยังพื้นที่ป่าไร่ โดยใช้รถหลังคาขาวชนิดเดียวกัน เข้าไปรับสินค้าตลอดทั้งคืนหลัง 18.00 น.และสินค้าหนีภาษีทั้งหมด จะถูกขนเข้าออกโดยกระบะหลังคาขาว ซึ่งมีภาพที่ถ่ายเมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 ที่ผ่านมา เป็นภาพรถวิ่งสินค้าหนีภาษีวิ่งผ่านจุดต่าง ๆ ไปยังแนวชาวแดนช่วงกลางดึกถึง 10 คัน เพื่อเข้าไปรับสินค้าหนีภาษี พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมต้องมีทหารตั้งจุดถึง 12 จุด ทำไมทหารไทยและกัมพูชา จึงเข้าไปขัดขวางที่ดินที่ชาวบ้านเข้าไปทำกิน โดยเฉพาะที่ดินของนายสารีฯ เพราะด้านหลังที่ดินจุดนี้ เป็นจุดรับ-ส่งแรงงานกัมพูชา จึงมีการข่มขู่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกิน ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึก และการเช่าที่ดินของทหาร การเพิกเฉยและเอื้อให้ทหารทำการทุจริต ชาวบ้านเจ้าของที่ดินไม่สามารถเข้าทำกินได้ นิ่งเฉยให้ทหารกัมพูชาเข้ามาอ้างสิทธิ์ในแผ่นดินไทย ด้วยเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ จึงกล่าวหานายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ปกป้อง นิ่งเฉย ปล่อยปละละเลยให้ประชาชนเดือดร้อน ปล่อยให้ทหารร่วมกับต่างชาติหาประโยชน์ในแผ่นดินไทย ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน จึงไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: