ภูเก็ต – ผู้ป่วยฝีดาษวานร ชาวไนจีเรีย รายแรกของประเทศไทย หลบหนี สาธารณสุขจังหวัดเร่งสืบสวนโรค พบกลุ่มเสี่ยงมีทั้ง แท็กซี่ โรงแรม ร้านซักรีด สถานบันเทิง เร่งตรวจเชื้อเพิ่ม
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.65 นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นพ.สสจ.ภูเก็ต กล่าวถึงการสอบสวนโรค ชายชาวไนจีเรีย ซึ่งติดเชื้อฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) ว่า ไทม์ไลน์ก่อนประกาศเคสแรก ได้รับแจ้งจาก รพ.เอกชน ว่า มีเคสที่น่าจะเป็นฝีดาษวานร ซึ่งเป็นเคสที่ 4 ที่รายงานมา แต่ 4 รายแรก ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่จากกระบวนการเฝ้าระวัง ทำให้มีการส่งตรวจเชื้อดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. โดยผลแล็บจากแห่งแรกออกมาว่าพบเชื้อฝีดาษวานร วันที่ 18 ก.ค. และทราบผล จากนั้น ประสานผู้ป่วยว่า จะรับตัวมารักษา แต่ผู้ป่วยปฏิเสธและปิดโทรศัพท์
สาธารณสุขอำเภอได้ประสาน ผู้การ ตม. เพื่อติดตามตัวผู้ป่วยทันที โดยไปเฝ้าที่คอนโดตั้งแต่คืนวันที่ 18 ก.ค. ต่อมา วันที่ 19 ก.ค. ผลแล็บที่สองจากกรมวิทย์ ได้ยืนยันมา ว่า เป็นฝีดาษวานร โดยพบว่า ตอนที่ไปตรวจที่ รพ. เอกชน ไม่ให้ความร่วมมือในการให้ประวัติ ระบุว่า เป็นนักธุรกิจ เดินทางเข้าไทยมาตั้งแต่ ต.ค.2564 มาพักที่ป่าตองตั้งแต่ พ.ย.2564 ประวัติเสี่ยง คือ ชอบเที่ยวสถานบันเทิง
สัปดาห์ต้นเดือน มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว แต่ไม่ให้ความร่วมมือในการบอกสัญชาติคู่นอน เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีผื่น ตั้งแต่อวัยวะเพศลามมาถึงคอ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. ไปตรวจสถานพยาบาลแห่งแรก แต่ไม่มีแพทย์โรคผิวหนัง จึงเดินทางมาสถานพยาบาลแห่งที่ 2 ซึ่งหลังทราบเชื้อ ได้เตรียมรถพยาบาลไปรับตัว แต่ผู้ป่วยไม่สามารถติดต่อได้และหายตัวไป
ข่าวน่าสนใจ:
การติดตามไปทุกที่ทั้งสถานพยาบาล คอนโดมิเนียม และขอให้แท็กซี่ที่รับตัวจากคอนโดฯ ไปป่าตอง ขอให้มาตรวจเลือดและสังเกตอาการ ส่วนในที่ชุมชน ที่ โรงแรมป่าตอง ร้านซักแห้ง มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 9 คน ที่สถานบันเทิง 142 คนที่เป็นผู้สัมผัส โดยสอบสวนโรค 142 คน มีอาการไข้ ไอ 5 คน ได้เพาะเชื้อตรวจเลือดแล้ว ผลการตรวจ 7 คนแรก จากที่พักอาศัย และโรงแรมป่าตอง ไม่พบเชื้อ ในชุมชนกำลังเก็บตัวอย่างส่งตรวจ
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการค้นหาติดตามผู้ป่วยฝีดาษวานร ว่า หลังจากที่ได้รับการรายงานจากทีมสืบสวนโรค ได้ออกสืบสวนติดตาม พบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวพักอยู่คอนโดย่านกระทู้ ซึ่งเมื่อไปติดตามไม่พบตัว แต่ทราบว่า พักอยู่ที่นั่นจริง เมื่อรอไม่พบตัว จึงสอบสวนจากกล้องวงจรปิดจากคอนโด และไล่กล้องไปเรื่อยๆ จนทราบว่า น่าจะขึ้นไปที่ป่าตอง
ในตอนต้นมีการนัดกันไว้จะไปรักษาตัว แต่พบว่าผู้ป่วยปิดเครื่องและติดต่อไม่ได้ จนทราบว่าไปพักโรงแรมป่าตองปริ้นเซส วันที่ 20 ก.ค. โดยจ่ายเงินไว้สองวัน ตอนเช็กเอ้าท์ไม่แจ้งพนักงาน ทำให้พนักงานไม่ทราบ โดยพบว่า ผู้ป่วยไม่ติดต่อใครเลย อยู่แต่ในห้อง ซึ่งตอนที่ออกจากโรงแรม ได้เอากุญแจวางไว้ มีรถคันหนึ่งมารับหายไปพร้อมกับรถ
คาดว่าจะไปรถคันดังกล่าว โดยพบว่า รถคันดังกล่าวไปทางกระหลิม กมลา ปัจจุบันคือผ่าน อบต.เชิงทะเล ยังติดตามอยู่ตลอด ว่า ยังอยู่ในภูเก็ตหรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่า ยังอยู่ในภูเก็ต หรือ เปลี่ยนรถแล้วออกไปจากภูเก็ต เป็นไปได้ทั้งหมด แต่ทางเครื่องบินโดยสารได้บล็อกไว้หมดแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: