พิษณุโลก ชมดอกสร้อยสยาม หนึ่งเดียวของไทย ที่กำลังออกดอกสีชมพูสวยสด ที่สวนพฤกษศาสตร์ สกุโณทยาน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นำพันธุ์จากสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า อ.ชาติตระการ มาปลูกเพื่อขยายพันธุ์ให้ออกดอกสวยงาม 
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนอกเหนือจากที่สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ได้ปลูกดอกสร้อยสยามที่สวยสดงดงาม หนึ่งเดียวของประเทศไทยแล้ว เจ้าหน้าที่ของสวนพฤกษศาสตร์ สกุโณทยาน ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้นำพันธุ์สร้อยสยามมาทดลองปลูกยังบริเวณที่ทำการ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าจากสภาพอากาศในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นเป็นบางช่วง ทำให้ดอกสร้อยสยาม สามารถเติบโตและออกช่อดอกสีสันที่สวยงาม สร้อยสยามเริ่มออกดอกมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวน้ำตกได้ชมความงาม 
นายพจน์ ชินปัญชนะ หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์สกุโณทยาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สวนพฤกษศาสตร์ สกุโณทยาน จ.พิษณุโลก เคยนำพันธุ์ของสร้อยสยาม มาปลูกในที่โล่งแจ้ง ปรากฏว่าไม่ออกดอก และแห้งเหี่ยวตายไป ทำให้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จึงได้ทดลองใหม่ ด้วยปลูกในที่โล่งแจ้ง แต่ให้ต้นสร้อยสยามสัมผัสแดดประมาณครึ่งวัน ปรากฏว่าใน ปีที่ผ่านมาได้เริ่มออกดอกแต่ไม่เต็มที่ เหมือนปีนี้ ที่ออกดอกมากกว่า และคาดว่าหนาวนี้ต้นสร้อยสยามที่นำมาปลูกไว้ 2 ต้น ก็จะออกดอกไปจนถึงสิ้นฤดูหนาวนี้ รอนักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมดอกสร้อยสยามที่กำลังบานเป็นสร้อยระย้าสีชมพูสวยงาม บริเวณที่ทำการในช่วงฤดูหนาวนี้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
สำหรับดอกสร้อยสยามเป็นพรรณไม้ที่พบว่ามีหนึ่งเดียวในโลก ที่ จ.พิษณุโลก มีชื่อเรียกอีกคือ ชงโคสยาม และ เสี้ยวแดง มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เลื้อย เนื้อแข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลกว่า 5-8 เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง หูใบรูปทรงกลมถึงรูปไข่กลับ ใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแยกเป็น 2 แฉกลึกคล้ายใบต้นชงโคทั่วไป ดอกเป็นดอกช่อ ดอกย่อยสีชมพู ออกดอกช่วงหน้าหนาว นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับเลื้อยแต่งรั้วหรือซุ้ม พบครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2544 ในเขตเทือกเขาของจังหวัดพิษณุโลก โดยนายธวัชชัย วงศ์ประเสริฐ ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย.
/////////
