กระบี่-นาทีสยบหนุ่มคลั่งทำร้ายพ่อแม่ ฟันรถ จนท.เสียหาย 3 คัน ต้องระดมกำลังยิงด้วยปืนไฟฟ้าจนสิ้นฤทธิ์
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 ก.ค.65 พ.ต.อ.วีศักดิ์ สุวพิชญ์ภูมิ ผกก.สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้รับการประสานของกำลังสนับสนุนจาก จนท.ฝ่ายปกครอง อ.เหนือคลอง โดยรับแจ้งว่ามีเหตุชายคุ้มคลั่งทำร้ายพ่อแม่ตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 348 หมู่ 5 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จากนั้นจึงสั่งการให้ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ นำกำลังเข้าไปร่วมตรวจสอบ เมื่อตำรวจไปถึงพบตัวนายธนัฒพงค์ จุฑามาตย์ อายุ 27 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน อยู่ในอาการคุ้มคลั่งในมือถือมีดอีโต้ 1 เล่ม จนท.พยายามเกลี้ยกล่อม เนื่องจากญาติต้องการให้นำตัวไปรับการบำบัดรักษา เพราะเจ้าตัวเคยมีประวัติเสพยาเสพติดจนเสียสติ แล้วเข้ารับการรักษามาแล้ว แต่ขาดการรักษาต่อเนื่อง จนเกิดอาการหลอนขึ้นมาดังกล่าว
จนท.ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน แต่เจ้าตัวยังไม่มีทีท่าสงบลงแต่อย่างใด กลับใช้มีดอีโต้ไล่ฟัน จนท. ทำให้ จนท.ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองต้องวิ่งหนีกันกระเจิง ก่อนที่จะวิ่งไปใช้มีดฟันใส่กระจกรถของ จนท. เป็นรถกระบะของฝ่ายปกครอง กระจกถูกฟันเสียหายรอบคัน และรถตำรวจสายตรวจ กระจกประตูแตกเสียหายไป 2 คัน จนท.จึงต้องประสายขอกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กระบี่ พร้อมทีมเจรจามาช่วยเกลี้ยกล่อม จึงระดมกำลัง จนท.ชุดควบคุมฝูงชน จำนวนกว่า 20 นาย เข้ามาช่วยปิดล้อมพื้นที่ และพูดคุยเจรจาอยู่นานร่วม 1 ชม. สุดท้ายตำรวจต้องตัดสินใจใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ไป 1 นัด จนเจ้าตัวล้มลง จนท.จึงวิ่งกรูกันเข้าไปตะครุบตัวไว้ได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่ง รพ.เหนือคลอง เพื่อรับการรักษาในเบื้องต้น
พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ เผยว่า กรณีดังกล่าว ทางญาติแจ้งฝ่ายปกครอง ให้ไปช่วยรับตัวนายธนัฒพงค์ เพื่อพาตัวไปรับการรักษาที่ รพ. แต่เมื่อฝ่ายปกครองไปถึง พบว่านายธนัฒิพงค์ มีอาการคลั่ง ถืออาวุธมีดในมือ และพยายามจะวิ่งเข้าไปทำร้ายนายธนิตย์ จุฑามาตย์ อายุ 50 ปี ผู้เป็นพ่อ และพยายามจะเข้าไปทำร้าย จนท. ทางฝ่ายปกครองจึงต้องขอกำลังตำรวจมาสนับสนุน แต่สถานการณืยังไม่ดีขึ้น เจ้าตัวยังวิ่งไปใช้มีดฟันใส่รถของตำรวจ และรถของฝ่ายปกครองจนเสียหาย สุดท้ายต้องขอกำลังชุดสืบสวนเข้ามาช่วยกันระงับเหตุ และคุมตัวส่ง รพ. จากการตรวจสอบประวัติ เจ้าตัวเคยมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน ต่อมาที่บ้านส่งตัวไปรับการบำบัดรักษาแล้ว แต่ระยะหลังขาดการรักษาต่อเนื่อง ทำให้อาการกลับมากำเริบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในส่วนของความเสียหาย ทางฝ่ายปกครอง และตำรวจ เตรียมจะดำเนินคดีในข้อหาทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย แต่ต้องรอให้เจ้าตัวสงบสติอารมณ์ลงก่อน จึงจะเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มี จนท. หรือชาวบ้านได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด.
