คนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงเงินธนาคารกรุงเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เงินไป 1.6 แสนบาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ล่าสุดตำรวจรวบตัวคนร้ายได้คาบ้านพัก และนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ 25 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ท.เตชินท์ ดีทองอ่อน สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกเข้าไปในธนาคารกรุงเทพใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานที่เคาน์เตอร์เอาเงินไปจำนวนหนึ่งแล้วหลบหนีไปหลังรับแจ้งจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเดินทางลพื้นที่ตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ,ว่าที่ พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง , พ.ต.ท.วีระพงศ์ รักขิโต รองผกก.(สอบสวน) สภ.ฉลอง ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมลงพื้นที่ บริเวณชั้นสองของอาคาร ในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาฉลอง ที่ตั้ง ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส ราไวย์ เลขที่ 6/43 ถ.วิเศษ ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้าย เป็นชายไทย สวมหมวกแก๊ปสีดำ เสื้อยืด คอวีสีเทา กางเกงขาสั้นสามส่วน ใช้อาวุธคล้ายปืนพกสั้น แบบลูกโม่ เข้ามาข่มขู่พนักงานของธนาคารที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ เอาเงินให้กับคนร้าย ด้วยความตกใจกลัวพนักงานจึงส่งเงินให้จำนวนหนึ่งจากนนั้นคนร้ายได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ติดกันพร้อมใช้อาวุธปืนขู่ให้ส่งเงินจนพนักงานต้องส่งเงินให้ไป หลังจากได้เงินคนร้ายหลบหนีออกจากธนาคารตรงไปที่บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ของคนร้าที่จอดไว้ก่อนที่จะขับรถหนีไป ส่วนเงินสดที่คนร้ายได้ไป เคาน์เตอร์ที่ 1 จำนวน 137,000 บาท เคาน์เตอร์ 2 จำนวน 23,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 160,000 บาท
ล่าสุดวันวันนี้ (25 ก.ค.65) เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยจากการที่ชุดสืบสวนทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจนกระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายได้ที่บ้านพักในพื้นที่ต.กะรน ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลมากนัก ทราบชื่อนายวิวรรธ์ อายุ 43 ปี เป็นชาวจ.ภูเก็ต
ข่าวน่าสนใจ:
สอบสวนเบื้องต้นคนร้ายให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ส่วนอาวุธปืนเป็นของครอบครัวที่บ้าน เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมคนร้ายเพื่อบอกถึงเงินที่จี้ไปอยู่ที่ไหนกับใครอย่างไรแต่คนร้ายยังปิดปาก จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวส่งไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดียังพื้นที่เกิดเหตุ สภ.ฉลอง ตามขั้นตอนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: