การันตี “ท่านชวนให้ผมมาลงเขต 4” สวน “สมชาย” คนนอกครอบงำพรรค น่าคิด ยก “ทักษิณ” โฟนอินสั่งคนนั้นคนนี้ลงสมัครจนถูกฟ้องร้อง ลั่น ตัวเองมีสิทธิ์เพราะทำงานให้พรรคมาตลอด เผยข้อบังคับพรรคระบุชัดขั้นตอนสรรหาตัวผู้สมัคร ต้องสมาชิกพรรคในเขตลงมติเลือก ก่อนเสนอ กก.สรรหา-กก.บห. ตามลำดับ ยอมรับทำโพลได้ แต่ต้องไม่ถูกครอบงำ แนะสื่อโทรหา “นายหัวชวน” ถามความจริง ไฟเขียวทำโพลตามที่อีกฝ่ายอ้างจริงหรือ?
จากกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรังเขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เป็นพ่อของน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังเขต 3 คนปัจจุบัน และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสมชายได้ออกมาต่อต้านนายสาทิตย์ด้วยการเข้าสนับสนุนนายทวี สุระบาล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐให้ชนกับนายสาทิตย์ในเขต 2 ประกอบด้วยอำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอสิเกาบางส่วน รวมถึงรายละเอียดของการจัดงาน “คนรักทวี” และงาน “คนไม่เอาสาทิตย์” รายตำบลในเขตเลือกตั้งของนายสาทิตย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุนนายกาญจน์ ตั้งปอง สท.เมืองกันตัง ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เขต 4 ซึ่งเป็นการแบ่งเขตเพิ่มกลับมาเป็นทั้งหมด 4 เขต เหมือนเดิม จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ตรังลดเหลือเพียง 3 เขต ทำให้พื้นที่เขต 4 บางส่วนคาบเกี่ยวกับพื้นที่เขต 3 ของน.ส.สุณัฐชา โดยนายสมชายระบุเขต 4 เป็นหลุมดำของพรรคที่อาจจะเสียเก้าอี้ จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่น่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า ขณะที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรังเขต 4 หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม ปัจจุบันนั่งตำแหน่งเลขานุการประธานสภาฯ คนใกล้ชิดเป็นญาติห่างๆของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อ้างว่า นายชวนให้การสนับสนุนตัวเองลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 4 เช่นกัน ทำให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ นายกฯชาย ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ต้องออกมาห้ามทัพความขัดแย้ง โดยระบุถึงสาเหตุที่ทำให้นายสมชายไม่พอใจมาจากนายสมชายเชื่อว่านายสาทิตย์อยู่เบื้องหลังคลิปแฉบ่อนเรือนไทยร้อยล้านโดยผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “จอมพลปฏิวัติ” ส่วนความขัดแย้งเรื่องว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคในเขต 4 ระหว่างฝ่ายนายสมชายกับนายสมบูรณ์ จะตัดสินด้วยการทำโพลประชาชนในเขต ซึ่งได้รับความเห็นชอบทั้งจากนายชวน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคแล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรังเขต 4 หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม ปัจจุบันนั่งตำแหน่งเลขานุการประธานสภาฯ คนใกล้ชิดเป็นญาติห่างๆ ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว “77ข่าวเด็ด” ประจำจังหวัดตรัง ถึงกรณีความขัดแย้งดังกล่าวว่า “จริงๆ เรื่องนี้นักข่าวน่าจะไปถามท่านชวน (หลีกภัย) จะดีกว่า ท่านชวนให้ผมลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 4 เพราะเป็นเขตเดิมของผม ซึ่งครั้งที่ผ่านมาผมไม่ได้แพ้การเลือกตั้ง เพราะครั้งที่แล้วผมไปลงแบบปาร์ตี้ลิสต์ แต่เมื่อเขตเดิมกลับมา ท่านก็ให้ผมมาทำพื้นที่เช่นเดิม และผมมาทำพื้นที่อยู่หลายเดือนแล้ว แต่ข่าวที่ว่านายชวนไฟเขียวให้ทำโพลนั้น ผมไม่รู้ว่าเอามาจากไหน (มีท่าทีอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง)”
ข่าวน่าสนใจ:
“ที่บอกว่านายชวนไฟเขียว ผมก็ไม่รู้ว่าจะให้สัมภาษณ์อย่างไร(ถอนหายใจ-เสียงเริ่มสั่น)” เรื่องนี้การพิจารณามันยังไม่เสร็จสิ้น เราต้องดูด้วยเหตุ เพราะเรื่องเขตเลือกตั้งที่เพิ่มมายังไม่ระบุว่าแต่ละเขตประกอบด้วยอำเภออะไร ตำบลอะไรบ้าง แต่คาดว่าน่าจะเป็นเขตเดิม เมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็ยื่นความจำนงขอเป็นผู้สมัครของเขตนี้ และได้ทำกิจกรรมของพรรคการเมืองตลอดเวลา”
ผู้สื่อข่าวถาม : ถ้ามีการทำโพลจริงๆ คุณสมบูรณ์จะมีความคิดเห็น หรือ รู้สึกอย่างไร
นายสมบูรณ์ ตอบ : “ในข้อบังคับการสรรหาผู้สมัคร การทำโพลถือเป็นขั้นตอนหนึ่ง แต่ขั้นตอนแรกคือเมื่อมีผู้ยื่นความจำนงลงสมัคร ส.ส.ของพรรค จะมีคณะกรรมการพิจารณาเป็นเบื้องต้น เช่น เป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ มีการทำงานงานให้กับพรรคมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงคุณสมบัติ ในข้อบังคับพรรคจะให้สิทธิ์สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในละเขต แต่เมื่อเขตยังไม่ชัดก็ไม่สามารถเอาสมาชิกพรรคในเขตว่าประกอบด้วยอำเภออะไร หากสมาชิกพรรคทราบเขตเป็นอำเภออะไร เช่น เขต 4 เป็นเขตเดิม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในอำเภอกันตัง อำเภอสิเกา 4ตำบลของอำเภอย่านตาขาว และตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ ต้องให้สมาชิกพรรคมาลงมติเพื่อเลือกผู้สมัคร แตกต่างจากการทำโพลที่ใช้วิธีสอบถามจากคนทั่วไปในเขตนั้น แต่ลักษณะของข้อกำหนดข้อบังคับของพรรคต้องมีมติ อาจจะส่ง 1 หรือ 2 คน เพื่อให้กรรมการสรรหาพิจาณา และส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร (ถอนหายใจอีก) โดยเฉพาะการชี้จากผู้ที่เป็นผู้บริหาร หรือ อาจจะเป็นการครอบงำจากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก ซึ่งการครอบงำพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่น่าคิดนะ แม้การที่นายทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกฯ) โฟนอินมาเมืองไทย จะให้ใครอยู่ในตำแหน่งไหนก็มีคนจ้องจะฟ้อง ประเด็นนี้สรุปคือ การทำโพลต้องไม่ได้มาจากการชี้นำ แต่ต้องดำเนินตามหลักและขั้นตอนของพรรค ผมอยากให้ผู้สื่อข่าวโทรหาท่านชวนเพื่อถามว่า ที่เขาพูดนั้นจริงหรือไม่”
ผู้สื่อข่าวถาม : นายชวนได้เคยเปรยเรื่องนี้กับคุณสมบูรณ์หรือไม่
นายสมบูรณ์ตอบสวนทันที : “ก็ท่านชวนให้ผมเป็นผู้สมัครๆ และลงมาทำพื้นที่ ท่านบอกว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะไม่ให้ผมลง เพราะผมเคยเป็น ส.ส.เดิม และไม่ได้แพ้เลือกตั้ง เคยได้รับคะแนนเลือกตั้งมากถึง 70,400 คะแนน และผมทำงานให้พรรคมาตลอด เป็นเลขาให้นุการให้ท่าน และผมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และวันนี้ผมได้ลงมาทำพื้นที่ แน่นอนหากให้กรรมการบริหารพรรค หรือ ผู้มีอำนาจสรรหาจะมีการดำเนินอย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องของพรรค แต่พรรคจะดำเนินการอย่างไร พรรคต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่แสดงความจำนง และผมเองก็เป็นอดีต ส.ส.ของเขตนี้ และไม่เคยทำความเสียหายอะไรให้กับพรรค และลงพื้นที่ตลอด มีผลงานปรากฏชัดเจนตั้งแต่เป็นผู้แทนฯมา”
“ผมทำพื้นที่ในจังหวัดตรัง จะเจอผมบ่อยครั้งในงานกิจกรรมต่างๆ งานแสดงความจงรักภักดี งานพระราชพิธี ผมได้ร่วมทำในนามพรรคมาโดยตลอด ท่านชวนได้ให้ผมเป็นผู้สมัครในเขต 4 แต่หากมีผู้สมัครที่คนอื่นส่งมา ก็ต้องมาเข้าสู่กระบวนการของพรรค การมีคนมาแสดงความประสงค์จำนวนมาก ก็ถือว่าดี เพราะมีคนมาอาสาทำงานเพื่อบ้านเมืองมากขึ้น แต่การที่ท่านชวนให้ผมมาทำพื้นที่ แล้วจะไม่ให้ผมเป็นผู้สมัครได้ไง และผมก็ลงพื้นที่มาหลายเดือนแล้ว แล้วตอนนี้มีการขึ้นป้ายในพื้นที่แล้ว ซึ่งเป็นป้ายที่มีรูปผมคู่กับท่านชวน โดยท่านชวนอนุญาตให้ใช้รูปท่าน ถือว่าเป็นการยืนยันว่าผมเป็นผู้สมัครเขต 4 ตรัง”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: