กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 และผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 วงเงินรวม 6,227.71 ล้านบาท เป็นเวลา 2 เดือน (1 กันยายน-31 ตุลาคม 2565)
วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 วงเงิน 5,336.83 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อ ให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 กรอบวงเงิน 890.88 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่าย ให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 200 บาทต่อคน ในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนถึง 31 ตุลาคม 2565 รวม 400 บาทต่อคน เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในภาวะวิกฤตในภาวะเศรษฐกิจที่ราคาสินค้าและค่าครองชีพปรับสูงขึ้นนี้
รูปแบบการดำเนินการโครงการฯ จะเป็นการเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านค้าหรือผู้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 โดยมีกลุ่มเป้าหมายในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 จำนวนไม่เกิน 13,342,076 คน (ข้อมูล ณ 1 มิถุนายน 65) และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 3 จำนวนไม่เกิน 2,227,204 คน (ข้อมูล ณ 1 เมษายน 65)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จะได้ปรับปรุงฐานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 นี้ให้เป็นฐานข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 65 เพื่อให้จำนวนกลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 โครงการ สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงในปัจจุบันให้มากที่สุดด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตำรวจนครพนมทลายขบวนการค้ายาเสพติด ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 46 กก. ผู้ต้องหา 4 ราย รับจ้างข้ามชาติ
- ชาวบ้านเอือมระอา!ไฟใต้จะจบปีไหน-บึ้ม อส.รปภ.ครูเจ็บ 3
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายราว 15 ล้านคน จากทั้ง 2 โครงการ จะได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และซื้อสินค้าหรือรับบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 นอกจากช่วยทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: