สุราษฎร์ธานี-ปะทะคารมเดือด! ชาวบ้านไร้ที่ทำกินกว่า 300 คนหอบเงินสด 2 ล้านขอเช่าที่ธนารักษ์ขีดเส้นตาย 15 วันถูกปฏิเสธเตรียมเคลื่อนไหวพบลุงตู่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 ก.ค.65 )ที่สำนักงานธนารักษ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่
จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 300 คน นำโดยนายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.ตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นางสาวโชติมา แย้มแสง ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมาย 2 ใน 3 จากที่ประชุม คทช.จ.สฎ. ( คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี )ครั้งที่2/2565 วันที่ 20 พ.ค.2565 และได้รับมอบหมายจากประธาน “วิสาหกิจชุมชนพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน อ.เคียนซา”ขอเช่าที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน สฎ848ในท้องที่อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี(ส่วนที่รัฐ ราชการนำมาจัดตามนโยบายของรัฐบาล) ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นแปลงที่เอกชนเช่าและหมดสัญญา ซึ่งทาง คทช.จะต้องนำมาจัดให้ราษฎรเป็นไปตามนโยบายคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ ได้หอบเงินสดจำนวน 2,000,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ชาวบ้านรวบรวมคนละ 2,000 บาทพร้อมเอกสารมาเพื่อขอเช่าที่ดินจากสำนักงานธนารักษ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามระเบียบทางราชการ
โดยในช่วงแรกนายศุภโชค บัวทอง หัวหน้าสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกมาพบปะชาวบ้านและพยายามที่จะบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะรับเงินสดจำนวนดังกล่าวได้ ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารการยื่นขอเช่าที่ดินก่อน ซึ่งลักษณะการใช้วาจาที่ดูเหมือนว่าจะดูขัดหูขัดตาชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยที่อาจจะไม่ทราบว่าชาวบ้านได้เตรียมเอกสาร หลักฐานต่างๆมาพร้อมแล้ว จนทำให้แกนนำและชาวบ้านไม่พอใจมีท่าทีที่เดือดดาลพอสมควร ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยสังเกตการณ์ดูแลความปลอดภัย
จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ทางนายศุภโชค บัวทอง ออกมาพบปะกับชาวบ้านอีกครั้งและกล่าวอย่างใจเย็น รับเอกสารหลักฐานจากชาวบ้านเพื่อรอตรวจสอบและเข้าที่ประชุม คทช.จังหวัด ก่อนที่จะพิจารณาให้เช่า
นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร แกนนำ กล่าวว่า รอคำตอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 15 วัน จากนั้นจะมาทวงคำตอบหากได้รับคำตอบไม่เป็นที่พอใจ และเป็นการให้เกียรติข้าราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะพาชาวบ้านไปฟังคำตอบที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งจังหวัดมีหน้าที่แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นประธาน คทช.จังหวัดไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่มีมติไปแล้ว ฝากสื่อส่งข่าวไปยังนายกรัฐมนตรี ชาวบ้านพร้อมที่จะเคลื่อนไหวไปทำเนียบรัฐบาลไม่เกินวันที่ 20 ส.ค.2565 เพื่อพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยตัวเอง เพราะชาวบ้านรอมาร่วม 8 ปีแล้วและดำเนินการตามระเบียบราชการทุกอย่าง แต่เจ้าหน้าที่บางคนปฏิบัติงานล่าช้า พยายามที่จะเข้าข้างนายทุน เพื่อจะต่อสัญญาเช่าให้นายทุนอีก จึงพยายามที่จะประวิงเวลามาโดยตลอด.
